1:42 - Tim Cook ขึ้นมากล่าวปิดงาน พร้อมแสดงคอนเสิร์ซ

1:38 - เหล่าบรรดาตระกูล iPod ทั้งหลาย



1:37 - ราคาของบรรดา iPod ทั้งหลาย

1:36 - แถมมาพร้อมกับ 5th Gen iPod Touch, 7th Gen iPad nano, และ iPhone 5

1:34 - ใช้ได้ดีกับหูทุกขนาด

1:33 เปิดตัวหูฟังใหม่ ออกแบบ 3 ปี

1:32 - มาให้เลือกทั้งหมด 5 สีด้วยกัน

1:31 - รวมความสามารถและฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ New iPod Touch

1:31 - สามารถใช้งาน Siri ได้เช่นกัน

1:30 - ติดตั้ง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi เช่นเดียวกับ iPhone 5

1:30 - กล้องถ่ายวิดีโอ HD 1080p
ส่วนกล้องหน้า HD 720p

1:28 - ด้านหลังมีหมุดโลหะ สำหรับเชื่อมต่อกับสายคล้องข้อมือ เรียกว่า "iPod Touch loop"
สามารถใช้ iPod Touch แทนกล้องถ่ายภาพได้เลย


1:28 - ภาพที่ถ่ายจาก iPod touch ใหม่

1:27 - กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมไมโครโฟน และแฟลช
และมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่นเดียวกับ iPhone 5

1:26 แบตเตอรี่สุดอึด ฟังเพลงได้นาน 40 ชั่วโมง ดูวิดีโอได้นาน 8 ชั่วโมง

1:24 - สาธิตเล่นเกม "Clumsy Ninja" เป็นเกม 3D

1:23 - ความเร็วกราฟิกเพิ่มขึ้น 7 เท่า

1:23 - ใช้ชิป Apple A5 เช่นเดียวกับ iPad 2

1:22 - หน้าจอขนาด 4 นิ้ว

1:21 - ฝาหลังมาแนวด้าน

1:21 - มาด้วยความหนาเพียง 6.1mm น้ำหนัก 88กรัม

1:20 - New iPod touch มาพร้อมกับหน้าจอขนาดยาวขึ้นเช่นเดียวกันกับ iPhone 5

1:20 - พอร์ตเชื่อมต่อขนาดเล็ก (Lighting)
1:19 - iPod nano ใหม่นี้มี Bluetooth มาให้ใช้งานด้วย

1:18 - ด้านหลังสีจัดจ้านมาก

1:18 - มี 7 สีให้เลือก พร้อมทั้งเครื่องรับวิทยุ FM ในตัว

1:18 - ขนาดหน้าจอ 2.5"

1:17 - iPod nano รุ่นใหม่บางเพียง 5.4mm
พร้อมปุ่ม Volumn ด้านข้างที่สามารถสั่ง Play หรือ Pause ได้

1:16 - แนะนำ iPod nao 7th Gen (เหมือน iPod Touch ผสม Nokia Lumia)

1:15 - Greg Jozwiak ขึ้นมาพูดถึง iPod
iPod ขายมาแล้วประมาณ 350 ล้านเครื่อง

1:14 - สรุปการพัฒนา iTunes
ใช้งานง่ายขึ้น, มี iCloud ในตัว, มีระบบ Mini Player

1:11 - สามารถย่อลงเป็นแบบ Mini Player ได้

1:10 - ระบบ Search แบบใหม่ที่จะแสดงทั้งอัลบั้ม เพลง หรือแม้กระทั้ง Playlist ที่เก็บเพลงนั้นๆ เอาไว้

1:07 - หน้าตา iTunes เปลี่ยนไป ไม่มีกรอบ Source ทางด้านซ้ายอีกแล้ว อัลบั้มทำงานคล้ายกับ Folder ใน iOS และ OSX

1:06 - ถึงรอบของโปรแกรม iTunes บนเครื่องคอมพิวเตอร์
คราวนี้ถูกพัฒนาให้มีฟีเจอร์ iCloud ในตัว (ไม่ต้องดาวน์โหลดมาติดตั้งเพิ่มอีก)

1:05 - ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลของแอพฯ เพลง สื่อบันเทิง ผ่านทาง Facebook

1:05 - iTunes Store, App Store, iBook Store ถูกปรับปรุงใหม่

1:02 - Tim Cook กลับขึันเวที พูดเกียวกับเรื่องของเพลงที่อยู่ในสายเลือด
กล่าวถึง iPod และ iTunes

1:01 - iOS 6 จะพร้อมให้อัพเดตได้ในวันที่ 19 กันยายน 2555

1:01 - อุปกรณ์ที่สามารถอัพเกรดเป็น iOS 6 ได้มีรายชื่อดังนี้
iPhone 4S, iPhone 4, iPhone 3Gs, The new iPad, iPad 2, iPod touch(4th Gen)

1:00 - ภายในสิ้นปีนี้จะมีจำหน่ายทั้งสิ้น 100 ประเทศ 240 ผู้ให้บริการ

1:00, - ในวันที่ 21 กันยายน 2555 จะเปิดขายใน 9 ประเทศ ดังนี้
USA, Canada, UK, France, Germany, Australia, Japan, Hongkong, Singapore

1:00 - เปิด Pre-Order วันที่ 14 กันยายน 2555

1:00 - ลดราคา iPhone 4 และ iPhone 4S ลง
iPhone 4 8GB - ฟรี (สัญญา 2 ปี)
iPhone 4S 16GB $99 (สัญญา 2 ปี)

00:59 - เปิดเผยราคาออกมาแล้ว
16GB - $199 (ประมาณ 6,000 บาท)
32GB - $299 (ประมาณ 9,000 บาท)
64GB - $399 (ประมาณ 12,000 บาท)
และติดสัญญา 2 ปี

00:54 - ฝาหลังสีขาว

00:54 - คอนเนคเตอร์ขนาดเล็ก

00:53 - ฝาหลังเครื่องสีดำ เห็นชัดขึ้น

00:53 - เปิดวิดีโอของ Jony Ive, Senior Vice President Design

00:51 - Schiller กลับมาบนเวที พร้อมทั้งแนะนำ iPhone5 มีด้วยกัน 2 สีคือ ขาว และดำ
สีดำจะมีส่วนอลูมิเนียมเรียกว่า "Slate"
สีขาวจะเป็น "Silver"

00:50 - Forstall ปิดด้วยการกล่าวว่า iOS6 ยังมีอีก 200 กว่าฟีเจอร์ใหม่ให้คุณใช้งาน

00:50 - Siri สามารถโพสต์ข้อความลง Facebook แทนคุณได้

00:49 - Siri สามารถแนะนำภาพยนตร์ที่น่าชมให้ได้

00:48 - ระบบ Siri ที่ฉลาดมากขึ้น สามารถถามผลกีฬาได้

00:47 - ระบบแชร์ Photo stream ระหว่างเครื่อง iOS

00:45 - ระบบ Passbook ที่รองรับการจองตั๋ว เก็บบัตรสมาชิกต่างๆ เอาไว้ใช้ตามร้าน

00:45 - ฟีเจอร์ Cloud Tab ที่จะช่วยเชื่อมต่อเว็บไซต์ที่เปิดบนเครื่องแต่ละเครื่องให้ตรงกัน

00:44 - ฟีเจอร์ Full Screen สำหรับ Safari

00:44 - ฟีเจอร์ใหม่ของ Notification Center สามารถโพสต์ Facebook หรือทวีตข้อความได้ทันที

00:42 - ฟีเจอร์ภาพแผนที่แบบ 3 มิติ

00:40 - ฟีเจอร์ค้นหาสถานที่ หรือบริษัทต่างในรัศมี 100 เมตร

00:40 - แอพฯ Map ตัวใหม่มาพร้อมกับระบบ Turn-by-turn

00:40 - ถึงเวลา Scott Forstall, SVP พัฒนา iOS ขึ้นมาแนะนำ iOS 6 บน iPhone 5

00:39 - สำหรับหัวคอนเนคเตอร์แบบเก่า ก็ยังสามารถใช้ได้เพราะมีตัวแปลงมาให้ด้วย

00:37 - คอนเนคเตอร์ใหม่ ขนาดเล็กลง 80%
8-Signal Design
ทนทานมากขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น

00:36 - พัฒนาระบบตัดเสียงรบกวนระหว่างโทรศัพท์

00:35 - กล้องหน้ารองรับ Facetime ด้วยความละเอียดระดับ HD แล้วที่ 720p
ติดตั้ง backside illuminated sesor และสามารถใช้งาน Facetime บนระบบ 3G ได้ด้วย iOS6 (เดิมใช้ได้แต่ Wi-Fi)
ติดตั้งไมโครโฟน 3 จุด ด้านล่าง ด้านหน้าบน และด้านหลังบน

00:34 - ถ่ายภาพวิดีโอขนาด 1080p และบันทึกภาพนิ่งขณะถ่ายวิดีโอได้

00:32 - ฟีเจอร์ใหม่ของการถ่ายภาพ: Panorama ขนาด 28 ล้านพิกเซล

00:32 - ชิปประมวลผล A6 เมื่อนำมาใช้รวมกับการถ่ายภาพ จะช่วยลด Noise ลงได้เป็นอย่างดี
ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาสวยงามจับใจ

00:30 - กล้องหลังแบบ iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ความละเอียด 3264 x 2448 พิกเซล
พร้อมระบบ Backside illumination, Hybrid IR Filter, เลน 5 ชิ้น, รูรับแสง f2.4, และขนาดเล็กลง 25%
มีระบบ Dynamic Low light mode ถ่ายภาพในที่มืดได้ดีขึ้น
Precision Lens Alignment
Sapphire Crystal ป้องกันเลน และเพิ่มความคมชัด


00:29 - Schiller กลับขึ้นมาใหม่ พูดถึงเรื่องระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นกว่า iPhone 4S (เล็กน้อย)

00:25 - Rob Murray (Executive Producer จาก EA)
ขึ้นมาแสดงความเหนือช้นของชิปประมวลผลใหม่ด้วยเกม Real Racing 3
แสดงให้เห็นความสวยงามของภาพ จากภาพสะท้อนบนกระจกหลัง

00:23 - iPhone 5 เลือกใช้ชิบประมวลผล Apple A6 มีความเร็วเพิ่มขึ้น 2 เท่า
ทั้ง ระบบ และ GPU

00:23 - ระบบ Wi-Fi ใหม่ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม
802.11 a/b/g/n
802.11n 2.4GHz และ 5GHz
ซึ่งให้ความเร็วได้ถึง 150Mbps

00:22 - ประเทศที่รองรับการใช้ 4G LTE (แน่นอนไม่มีประเทศไทย)
Europe: Deutsche Telekom, EE
Australia: Telstra, Optus, Virgin Mobile
Asia: Softbank, Smartone, Singtel, SK Telecom
Canana: Bell, Telus, Fido, Virgin, Kudo
USA: Sprint, AT&T, Verizon

00:20 - ฟีเจอร์ใหม่สำหรับระบบเชื่อมต่อออนไลน์ได้แก่ "Ultrafast wireless technology" (4G LTE)

00:20 Touch Sensors ถูกทำให้มีขนาดที่บางลง 30% เป็นผลให้แสดงสะท้อน (Glare) ลดน้อยลง

00:20 - ภาพยนตร์แบบ Wide Screen จะแสดงผลได้ดีขึ้น

00:19 - แอพฯ ของบางบริษัทได้ปรับเปลี่ยนเป็นขนาดใหม่แล้ว เช่น CNN

00:18 - สำหรับแอพฯ เดิมที่ไม่ได้ออกแบบใหม่ จะปรากฏหน้าจอขนาดเท่าเดิม
แล้วเติมแถบสีดำด้านบนและล่างแทนลงไป จะไม่ยืดหน้าจอแอพฯ จนเสียสภาพ

00:17 - ด้วยหน้าจอขนาดใหม่ที่ยาวกว่าเดิม ทำให้สามารถแสดงไอคอนได้มากขึ้นถึง 5 แถว
แสดงอีเมลได้มากขึ้น แสดง 5 วันต่อสัปดาห์ได้ในแอพฯ Calendar

00:17 - หน้าจอขนาดใหม่ใน iPhone 5 เป็นหน้าจอแบบ 4"
แสดงผลด้วยอัตราส่วน 16:9 (เหมาะสำหรับการชมภาพยนตร์)
ขนาดพิกเซล 1136 x 640
ใช้หน้าจอแบบ Retina Display

00:15 – iPhone 5 มาพร้อมกับความหนาเพียง 7.6mm บางกว่า iPhone 4S ประมาณ 18%
น้ำหนัก 112 กรัม เบากว่าเดิม 20%



00:12 - Phil Schiller ขึ้นเวทีมาพูดเรื่อง iPhone 5


00:10 – กลับมาพูดถึงเรื่องจำนวนแอพฯ
iOS มีจำนวนแอพฯ มากถึง 700,000 แอพฯ
และเป็นแอพฯ สำหรับ iPad ถึง 250,000 แอพฯ ด้วยกัน


ยอดขายไอแพดช่วงเดือน เมษายน-มิถุนายน สูงถึง 17 ล้านเครื่อง

MacBook คือโน้ตบุ๊คที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา

อธิบายว่าเมื่อช่วง Summer ที่ผ่านมาได้เปิดตัว Mountain Lion ออกไป
มียอดอัพเกรดเป็น Mountain Lion ถึง 7 ล้านก้อปปี้

จบวิดีโอ Tim Cook กลับขึ้นเวทีอีกครั้ง
แสดงภาพวิดีโอ Apple Store สาขาให้ให้ชม

เปิดตัวด้วยการแนะนำ Apple Store ในเมือง Barcelona

Tim Cook ขึ้นเวทีเวลา 24:00





(หรือช่องทางสำรองทาง TechXcite Fanpage กด like ด้วยนะครับ)