Mobile Expo : [[อัพเดทตลอดงาน]] โปรโมชั่น,โบรชัวร์ล่าสุดของมือถือและแท็บเล็ต
- อัพเดทราคา,โปรโมชั่น,โบรชัวร์ล่าสุดของมือถือและแท็บเล็ตภายในงาน
- เสริมความรู้ 3G ก่อนเดินงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
- เปิดตำรา อ่านสเป็คให้เป็นก่อนเดินงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
- วีธีเช็คโทรศัพท์ สมาร์ทโฟนเบื้องต้น ก่อนเสียเงินซื้อเครื่องห่วยกลับบ้าน !!
- ส่องกล้อง มองมือถือใหม่ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
อัพเดทราคา,โปรโมชั่น,โบรชัวร์ล่าสุดของมือถือและแท็บเล็ตภายในงาน
Mobile Expo : อัพเดทราคา,โปรโมชั่น,โบรชัวร์ล่าสุดของมือถือและแท็บเล็ตภายในงาน
เผยโปรโมชั่นบางส่วนออกมาแล้วค่ะ สำหรับค่ายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ตโฟนและแท็บเลต ระดับยักษ์ใหญ่หลายๆค่าย
ภายในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ที่จะจัดขึ้น
ในวันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม 2554 นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ที่มีโปรโมชั่นหลากหลายมาให้เลือกสรรกัน ซึ่งทาง TechXcite จะคอยติดตามข่าวและนำมาเผยแพร่อย่างรวดเร็วที่สุดให้ได้ชมกันค่ะ และ โปรโมชั่นที่มีออกมาแล้วบางส่วนเราได้รวบรวมไว้ที่นี่แล้วค่ะ
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ AIS
AIS ขาย BB Bold 9860, เปิดจอง Nokia N9 พร้อมสัมผัส Samsung Galaxy Tab 10.1 ที่เดียว!
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ DTAC
iPad 2 จาก DTAC มอบข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อเครื่องในงาน Thailand Mobile Expo 2011!
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ True Move H
True Move H อัพเดทโปรโมชั่นล่าสุดภายในงานกับราคา, ส่วนลด และแพ็คเกจที่น่าสนใจทั้งหมด!
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ Power Buy
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ HTC
HTC ส่งโปรโมชั่น Mobile Expo 2011 จัดเต็มด้วยของแถมสุดคุ้ม พร้อมส่วนลดสูงสุด 20%!!
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ i-Mobile
โปรโมชั่นมือถือ i-Mobile ล่าสุดในงาน Thailand Mobile Expo 2011 ของถูกเพียบ !!
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ Sony Ericsson
Sony Ericsson แจกของแถมเพียบกับโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน อัพเดทกันได้ที่นี่!
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ Samsung
Samsung Galaxy R, Samsung Galaxy S II สีขาว โปรโมชั่น+ของแถมในงานมีอะไรบ้างไปดูกัน!
Samsung ปล่อยโปรโมชั่นล่าสุดภายในงานออกมาแล้ว อัพเดทราคา, ของแถมทุกรุ่นได้ที่นี่!
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ LG
LG ส่งโปรโมชั่น Mobile Expo โชว์ของแถมตรึม+ผ่อนกระจายภายในงาน!
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ของ Acer
Acer ยกทัพสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตสเปคหนัก ลดราคาท้าสายฝนในราคาเบาๆ
อัพเดทล่าสุด !! รวมโปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase Page 1
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase Page 2
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase Page 3
อัพเดทล่าสุด !! โปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase Page 4
โปรโมชั่นของ Samsung ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
Samsung Galaxy R ขายในงาน 2,000 เครื่องพร้อมเปิดตัว Samsung Galaxy S II สีขาว!
Samsung Galaxy R เปิดจองออนไลน์ 15,900 บาทพร้อมรับฟรีบลูทูธ + Micro SD 8GB!
โปรโมชั่นของ LG ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
LG Optimus Pro มือถือแอนดรอยด์ QWERTY เพื่อคนชอบแชตเริ่มต้นเพียง 6,290 บาท!
โปรโมชั่นของ Nokia ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
Nokia N9 เปิดจองในงานพร้อมขาย Nokia 701, Nokia 700, Nokia 600 แถมกระเป๋า Adidas!
Nokia N9 ประกาศราคาจองในไทยแล้วเพียง 18,900 บาท!
โปรโมชั่นของ HTC ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
HTC Flyer ปรับโปรโมชั่นล่าสุดซื้อเครื่องในงานรับ HTC ChaCha ฟรี 1 เครื่องแทน!
โปรโมชั่นของ Sony Ericsson ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
Sony Ericsson Xperia Ray ปักป้ายขายในงานถูกสุดๆเพียง 11,990 บาท!
โปรโมชั่นของ Motorola ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ BlackBerry ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Acer ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
Acer Iconia Tab A100 ยืนยันมาแน่ ราคา 12,900 บาท พร้อม Android 3.2, ของแถมเพียบ!
โปรโมชั่นของ ViewSonic ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Garmin Asus ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ i-mobile ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
มือถือ Android สุดคุ้ม ราคา 2,990 บาท มี 3G, เป็น Wi-Fi Router, GPS, TV กับ i-Mobile i680!!
โปรโมชั่นของ Spriiing ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ 3BB ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Surbox Android TV ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Alcatel ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
Alcatel One Touch Y-280 (MIFI) ลดราคาเหลือเพียง 2,890 บาท แถมฟรี ถุงลดโลกร้อน
Alcatel One Touch OT-606 ลดราคาเหลือเพียง 1,570 บาท แถมฟรี เมมโมรี่ 2GB และถุงลดโลกร้อน
โปรโมชั่นของ WellcoM ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
WellcoM A100 ลดราคาเหลือเพียง 9,900 บาทกับสมาร์ตโฟนพลัง Dual Core สัญชาติไทย!
โปรโมชั่นของ Oppo ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ jFone ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ MTM ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ MXNEC ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ SKG ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ VivePad ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Besta ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ iFox ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Vox ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Barba Store ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Casecrazy ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Jabra ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Plantronics ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Jawbone ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Suntoshi ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Advantech ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Lamborghini ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ i-Tech ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ UFO ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ SPA ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Eneloop ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Commy ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Rainbow Art ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
โปรโมชั่นของ Citibank ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
เสริมความรู้ 3G ก่อนเดินงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
เสริมความรู้ 3G ก่อนเดินงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
เพื่อไขข้อข้องใจและเก็บตกข่าวความเคลื่อนไหวในวงการเทเลคอมทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ ก่อนงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ครั้งนี้ จัดวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่เดิม
สำหรับบทความนี้จะมาแนะนำการเลือกซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพื่อนำไปใช้กับ ระบบ 3G ที่วันนี้มีผู้ให้บริการกันมากมาย หลายรายแล้ว ว่าควรจะดูอย่างไรเพื่อให้ใช้ได้กับระบบที่คุณใช้อยู่ เพราะวันนี้ บริการ 3G ในบ้านเรานั้นมีการให้บริการกันหลายความถี่ ซึ่งทำให้เกิดการสับสนในการเลือกใช้ เลยอยากมาแนะนำการเลือกซื้อ โทรศัพท์ 3G ให้ถูกค่ายกันครับ
3G มีกันกี่มาตรฐาน แล้วทำไมโทรศัพท์มือถือ 3G ของแต่ละค่ายถึงใช้ด้วยกันไม่ได้
มาตรฐาน 3G หรือ UMTS (Universal Mobile Telephone System) หรือเรียกกันในชื่อของเทคโนโลยี WCDMA (Wide Band Code Division Multiple Access) เป็นระบบที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลกขณะนี้ จริงๆแล้วมีอีกเทคโนโลยีหนึ่งก็คือ CDMA 2000 1x EVDO (ที่ CAT Telecom ให้บริการในต่างจังหวัด แต่สุดท้ายก็จะเปลี่ยนไปเป็น WCDMA ในเร็วๆนี้)
พูดง่ายๆ ก็คือต้องบอกว่า 3G ในบ้านเราก็คงมีแต่ระบบ WCDMA นั่นแหละครับ ระบบ WCDMA นั้นมีการพัฒนาใช้กันมากว่า 10 ปี และมีการใช้งานบนความถี่มาตรฐานต่างๆ กันไป แล้วแต่ทวีป หรือประเทศนั้นๆ ว่ามีความถี่ใดว่างให้ได้ใช้กัน จนกลายมาเป็นมาตรฐานความถี่ที่ใช้บนเทคโนโลยี WCDMA ถึง 5 ความถี่ด้วยกัน อันได้แก่
2100 MHz เป็นความถี่แรกของมาตรฐาน 3G WCDMA โดยใช้กันแพร่หลายมากที่สุดทั่วโลก โดยมีการใช้ในทวีปยุโรป เอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย
1900 MHz ใช้กันแพร่หลายในแถบทวีปอเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้
1700 MHz มีใช้กันในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
850 MHz ใช้กันมากในแถบทวีปอเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ในเอเชียมีประเทศ ออสเตรเลียและไทย
900 MHz ใช้กันแพร่หลายในยุโรป เอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย หรือประเทศที่ให้บริการ GSM ในความถี่ 900 MHz แล้วมีการอัพเกรดระบบมาเป็น 3G บนความถี่เดิม
ในประเทศไทยนั้นเนื่องจากการประมูล ความถี่ 3G ที่คลื่นความถี่ 2100 MHz ถูกล้มไปเมื่อปีก่อน ทำให้ผู้ให้บริการปัจจุบันต้องหันมาใช้ความถี่เดิมๆ ที่มีการจัดสรรก่อนหน้านี้มาใช้ไปก่อน (เพราะถ้าต้องรอ ก็ไม่รู้จะต้องรอถึงเมื่อไร…) ได้แก่ความถี่ 850 MHz และ 900 MHz ยกเว้น TOT ที่ได้สิทธิในการให้บริการ 3G ที่คลื่นความถี่ 2100 MHz ก่อนใคร
ส่วนในเรื่องโทรศัพท์มือถือนั้น โดยส่วนใหญ่เครื่องที่มีขายในวันนี้จะมีการรองรับกันแบบ Dual Mode อยู่แล้ว นั่นคือ รองรับการใช้งาน 3G (WCDMA) และ 2G (GSM) ในตัวเดียวกัน โดยแต่ละ Mode นั้นก็จะรองรับความถี่ต่างๆ กันไปในเครื่องเดียวกัน ในส่วนของ 2G (GSM) นั้นส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นเครื่องที่รองรับ 3G จะรองรับ 2G (GSM) ในทุกย่านความถี่เพื่อพร้อมใช้งานได้ทั่วโลกอยู่แล้ว อันได้แก่ GSM 850/900/1800/1900 MHz โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
แต่ส่วนความถี่ที่ รองรับบน 3G (WCDMA) นั้นมักจะมีปัญหาว่าหลายๆยี่ห้อ จะไม่สามารถทำให้ทั้ง 3 ความถี่ที่มีการใช้งานในบ้านเราอยู่ในเครื่องเดียวกันได้ (850, 900, 2100 MHz) ปัญหาอยู่ที่ความถี่ 850 MHz กับ 900 MHz ที่อยู่ใกล้ๆกันมาก บางยี่ห้อไม่สามารถออกแบบ และพัฒนาได้ เพราะประสิทธิภาพที่ได้นั้นไม่เสถียรเมื่อนำมาใช้งานจริง แต่บางยี่ห้อก็สามารถก้าวข้ามปัญหาด้านเทคนิคนี้ และทำออกมาขายสู่ตลาดได้ นั่นเป็นเหตุว่าต้องทำความเข้าใจก่อนว่าจะใช้เครื่องใด กับผู้ให้บริการใดได้บ้าง
3G โดยผู้ให้บริการไทย ใครกันบ้าง ความถี่อะไร
ปัจจุบันในบ้านเรามีการเปิดให้บริการ 3G กันหลายรายแล้ว ทั้งหมด 4 ราย ได้แก่
TOT 3G ที่ปัจจุบันให้บริการกันที่ความถี่ 2100 MHz ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่ขายในไทย และรองรับ 3G ก็จะรองรับความถี่ 2100 MHz กันทุกรุ่นอยู่แล้ว เพียงบอกว่าโทรศัพท์รุ่นนั้นรุ่นนี้รองรับเทคโนโลยี 3G (WCDMA หรือ UMTS ล้วนเป็นความหมายเดียวกันว่ารองรับ 3G เทคโนโลยี) ความถี่ 2100 MHz อยู่
โดยปัจจุบันให้บริการที่ความเร็วสูงสุด 42 Mbps (Mega bit per second) ปัจจุบันมีพื้นที่ให้บริการอยู่ในเขตจังหวัด กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม อยุธยา ปทุมธานี
True Move และ True Move H (ในเครือเดียวกัน) ที่มีการให้บริการ 3G ที่ความถี่ 850 MHz และให้ความเร็วสูงสุด 21 Mbps มีพื้นที่ให้บริการอยู่ในเขตจังหวัด กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา บางแสน หัวหิน ชะอำ
AIS เปิดให้บริการ 3G ที่ความถี่ 900 MHz และให้บริการที่ความเร็วสูงสุด 21 Mbps โดยมีพื้นที่ให้บริการอยู่ในเขตจังหวัด กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา ภูเก็ต สงขลา ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี
dtac เพิ่งจะเปิดให้บริการรายล่าสุดที่ความถี่ 850 MHz และให้ความเร็วสูงสุด 42 Mbps ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจะมีการขยายไปสู่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ภายในปีนี้อย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ความเร็วสูงสุดที่พูดถึงกันคือ ความเร็วในการ Download ส่วนความเร็วสูงสุดในการ Upload จะอยู่ที่ 5.76 Mbps หรือ 2 Mbps แล้วแต่ละรายที่จะรองรับกันได้ ทั้งนี้จะเห็นว่าประเทศไทยมีการให้ บริการ 3G แตกต่างกันถึง 3 ความถี่ด้วยกัน อันได้แก่ ความถี่ 850 MHz (dtac, True Move) 900 MHz (AIS) และ 2100 MHz (TOT)
เพราะฉะนั้นการเลือกโทรศัพท์มือถือให้ใช้ได้กับ ความถี่ 3G ที่ผู้ให้บริการที่คุณเลือกใช้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ผมเลยอยากขอแนะนำเป็นหมวดๆ กันไป โดยขอแนะนำเฉพาะรุ่นที่ยังมีขายอยู่ในตลาดเท่านั้นนะครับ
โดยส่วนใหญ่จะออกเป็นจำพวกสมาร์ทโฟน แต่ถ้าอยากทราบว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นที่คุณมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ตรงกับที่ผมจะแนะนำ แสดงว่ารุ่นนั้นๆ เลิกทำตลาดไปแล้วอาจจะไม่มีขายแล้วในตลาด ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบรุ่มมือถือของคุณจากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการแต่ละรายได้ ว่ารองรับการใช้งานได้หรือไม่
iOS – Apple iPhone 4, iPad2 ซื้อแล้วใช้ได้เลยทุกค่าย
เริ่มจากค่าย Apple ที่ใช้ iOS เป็นระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟนนี้ โดยมีมาหลายรุ่นแล้ว ตั้งแต่ iPhone ตัวแรกซึ่งไม่รองรับการใช้งาน 3G เลย รองรับแค่ GSM เท่านั้น ส่วนรุ่นต่อมาก็คือ iPhone 3G ก็รองรับ 3G และ GSM ในตัวเดียวกัน ส่วนรุ่นที่ยังมีขายอยู่ ก็ได้แก่
iPhone 4: รองรับ 3G ความถี่ 850, 900, 1900, 2100 MHz พูดง่ายๆ ใช้ 3G ได้ทุกค่ายครับ โดยเครื่อง รองรับ 3G ความเร็วดาวน์โหลดที่ 7.2 Mbps และอัปโหลดที่ 5.76 Mbps
iPhone 3GS: รองรับ 3G ความถี่ 850, 1900, 2100 MHz ก็คือใช้ได้ทุกค่าย ยกเว้น AIS เพราะฉะนั้นใครอยากใช้รุ่นนี้ ก็ต้องแน่ใจแล้วว่าคุณใช้บริการของ TOT 3G, dtac หรือ True Move เท่านั้น โดยเครื่อง 3G ความเร็วดาวน์โหลดที่ 7.2 Mbps และอัปโหลดที่ 384 kbps
iPad 2: รองรับ 3G ความถี่ 850, 900, 1900, 2100 MHz ก็คือใช้ 3G ได้ทุกค่ายครับ โดยเครื่องรองรับ 3G ความเร็วดาวน์โหลดที่ 7.2 Mbps และอัปโหลดที่ 5.76 Mbps (ส่วน iPad รุ่นแรกนั้น ไม่สามารถใช้ได้กับ 3G ของ AIS ได้นะครับ)
BlackBerry ยอดนิยมสำหรับขาแชต ใช้ได้ทุกค่าย แต่ต้องสังเกตให้ดีก่อนซื้อ
โทรศัพท์มือถือ BlackBerry จาก RIM นั้น รองรับ 3G กันมามากมายหลายรุ่นแล้ว โดยรุ่นปัจจุบันที่รองรับอันได้แก่ Bold 9780, Torch 9800, Curve 9300 ส่วนรุ่นใหม่ที่กำลังจะออกขายในช่วง 2-3 เดือนนี้ได้แก่ Bold 9900, Torch 9810, Torch 9860, Curve 9360
ส่วนรุ่นที่ตกรุ่นไปแล้วละรองรับการใช้ 3G ได้ก็มี Bold 9000, Bold 9700 แต่โทรศัพท์ BlackBerry ที่รองรับ 3G และมีขายในเมืองไทยนั้นจะมี 2 หน่วยการขายในแต่ละรุ่น
รองรับการใช้งาน 3G ความถี่ 850 / 1900 / 2100 / 800 ซึ่งปกติถ้าจะเลือกซื้อ ก็อาจจะเข้าไปที่ร้านของ dtac หรือ True Move ก็จะได้เครื่องที่รองรับความถี่ 850 MHz อย่างแน่นอน หรือถ้าอยากรู้ว่าใช้ได้จริงๆ หรือไม่ก็ดูว่าใส่ซิมแล้วขึ้นสัญลักษณ์ 3G ที่มุมขวาบนหรือไม่
แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ 3G แล้วแต่สัญลักษณ์ขึ้นเป็น EDGE หรือ GPRS เท่านั้นแสดงว่าเครื่องอาจจะไม่รองรับ มีอีกวิธีที่ตรวจสอบเครื่องของเราก็สามารถทำได้โดย เข้าไปที่เมนู Option แล้วเลือกหัวข้อ Device แล้วเลือกหัวข้อ About Device Versions สังเกตข้อมูลตรง 3G Bands ว่าต้องมีเลข 5 ซึ่งหมายถึง 3G ความถี่ 850 MHz (1,2,5,6 แปลว่ารองรับ 3G ความถี่ 2100, 1900, 850, 800)
รองรับการใช้งาน 3G ความถี่ 900 / 1700 / 2100 ซึ่งปกติถ้าจะเลือกซื้อ ก็อาจจะเข้าไปที่ร้านของ AIS หรือ Telewiz shop ก็จะได้เครื่องที่รองรับความถี่ 900 MHz อย่างแน่นอน และเช่นกัน เราก็สามารถทำได้โดย เข้าไปที่เมนู Option แล้วเลือกหัวข้อ Device แล้วเลือกหัวข้อ About Device Versions
สังเกตข้อมูลตรง 3G Bands ว่าต้องมีเลข 8 ซึ่งหมายถึง 3G ความถี่ 900 MHz (1,4,8 แปลว่ารองรับ 3G ความถี่ 2100, 1700, 900)
ส่วนเครื่องที่รองรับ 3G Bands เลข 1 เท่านั้น แสดงว่าเป็นเครื่องที่ รองรับ 3G 2100 MHz เท่านั้น และจะรองรับ GSM และ CDMA ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งส่วนมากเครื่องรุ่นแบบนี้มักจะนำหิ้วกันเข้ามาจากทางแถบอเมริกาหรืออเมริกาใต้เสียส่วนใหญ่
สรุปเลข 3G band ที่แสดงอยู่ในเครื่อง BlackBerry: 1 = 2100 MHz, 2 = 1900 MHz, 4 = 1700 MHz, 5 = 850 MHz, 6 = 800 MHz, 8 = 900 MHz
ผู้อ่านท่านใดที่จะซื้อเครื่อง BlackBerry เหล่านี้ก็สามารถสอบถามจากผู้ขายเสียก่อน และบอกให้ทราบว่าจะซื้อไปใช้กับ 3G ระบบใด อีกทางสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองอย่างที่แสดงข้างต้นนะครับ ไม่งั้นพลาดไปใช้งานไม่ได้ตรงตามที่ต้องการล่ะก็เสียดายเงินแย่เลย
Android ยอดนิยม ระวังให้ดี มีแตกต่างกันมากมาย
ปัจจุบัน Android Phone มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ถ้าจะถามว่ารุ่นไหน รองรับ 3G ความถี่ใด ก็ต้องดูกันให้ละเอียดล่ะ วิธีสังเกต (ใช้ได้กับ Android Phone ทุกยี่ห้อ)
เช็คสเปคจากผู้ผลิต ว่ารองรับ 3G ความถี่ใดบ้าง เช่น 3G 900/2100 หรือ 3G 850/2100 หรือเปล่า หรือ รองรับ 3G 850/900/2100 อันนี้แบบว่าบ้านๆเลย ถามเอาซื่อๆ แต่ถ้าเขาตอบไม่แน่ใจ ก็ดูข้อต่อไป
ถ้าจะเช็คเองให้แน่ใจก็ใช้วิธีค้นหา สัญญาณ 3G ด้วยตนเองว่าเครื่องจะจับสัญญาณ 3G/2G ในความถี่ใด ของเครือข่ายใดบ้าง แต่วิธีนี้คุณต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณ 3G ของระบบที่คุณจะใช้อยู่นะครับ ไม่งั้นเครื่องก็จะบอกไม่ได้หรอกว่าเครื่องสามารถจับ สัญญาณ 3G ของเครือข่ายนั้นได้หรือไม่
วิธีการคือเข้าไปที่เมนู Settings เลือกไปที่หัวข้อ Wireless and network เลือกไปที่หัวข้อ Mobile networks เลือกหัวข้อ Network Mode โดยดูให้แน่ใจแล้วว่าคุณเลือกให้เครื่องเป็น WCDMA Only หลังจากนั้นเลือกไปที่หัวข้อ Network Operators แล้ว Search Network
เครื่องจะทำการค้นหาสัญญาณของระบบ 3G ของทุกเครือข่ายที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ถ้าพบเครือข่ายที่คุณต้องการใช้ ก็จะมีชื่อของเครือข่ายนั้นปรากฏขึ้น หรือมีสัญลักษณ์ 3G ปรากฏอยู่ด้วยข้างๆ ชื่อนั้น แสดงว่าเครื่องนั้นรองรับ 3G ความถี่ที่คุณต้องการแล้ว (หลังจากนั้นถ้าจะใช้ต่อ ให้แก้ Network Mode เป็น WCDMA/GSM Mode นะครับ ไม่งั้นถ้าเครื่องไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มี 3G เครื่องจะใช้ GSM ไม่ได้นะครับ)
บางกรณีที่เครื่องจากผู้ผลิตนั้นรองรับการขายแบบสองหน่วยผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ยี่ห้อ Samsung
Samsung Galaxy S II: ซึ่งมีรหัสสินค้าคือ i9100 และ i9100T โดยรุ่นที่เป็น i9100 นั้นจะรองรับการใช้ 3G ที่ความถี่ 900/1900/2100 MHz ส่วนรุ่น i9100T นั้นจะรองรับการใช้ 3G ที่ความถี่ 850/1900/2100 MHz วิธีดูรหัสนี้สามารถดูจากฉลากด้านหลังเครื่อง หรือเข้าไปที่ About Phone ในเมนู Settings ***แต่จริงๆ แล้วในรุ่นนี้ ทั้งสองรหัสนั้นจะรองรับทั้ง 4 ความถี่เลย แต่ถูกปรับจูนมาให้เหมาะสมกับความถี่ 850 หรือ 900 MHz แตกต่างกันไป
ตัวอย่างถ้าเอาเครื่อง i9100 มาใส่ซิม dtac หรือ True Move นั้น เครื่องก็จะมองเห็น 3G ความถี่ 850 MHz เหมือนกัน และใช้ได้ แต่ประสิทธิภาพจะด้อยลงพอสมควร ขณะเดียวกันถ้าเอาซิม AIS ใส่เข้าไปก็จะรองรับการใช้งาน สัญญาณ 3G ของ AIS ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด ในทางกลับกันก็เช่นกัน ถ้าเอาเครื่อง i9100T มาใส่ซิม AIS นั้น เครื่องก็จะมองเห็น 3G ความถี่ 900 MHz เหมือนกัน
และใช้ได้ แต่ประสิทธิภาพจะด้อยลงพอสมควร ขณะเดียวกันถ้าเอาซิม dtac, True Move ใส่เข้าไปก็จะรองรับการใช้งาน สัญญาณ 3G ของทั้งสองค่ายได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
Samsung Galaxy Cooper: มีรหัสสินค้าคือ S5830 สำหรับเครื่องที่รองความถี่ 3G แต่ 900/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ AIS, TOT 3G (จริงๆ ไม่เหมือนกรณีรุ่น Galaxy S II นะครับ) ส่วนรหัสสินค้า S5830T ก็เป็นเครื่องที่รองรับความถี่ 3G แต่ 850/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ dtac, True Move, TOT 3G
Samsung Galaxy Mini: คล้ายกรณีของ Galaxy Cooper มีรหัสสินค้าคือ S5570 สำหรับเครื่องที่รองความถี่ 3G แต่ 900/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ AIS, TOT 3G ส่วนรหัสสินค้า S5570B ก็เป็นเครื่องที่รองรับความถี่ 3G แต่ 850/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ dtac, True Move, TOT 3G
Samsung Galaxy TAB: คล้ายกรณีของ Galaxy Cooper เช่นกัน มีรหัสสินค้าคือ P1000 สำหรับเครื่องที่รองความถี่ 3G แต่ 900/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ AIS, TOT 3G ส่วนรหัสสินค้า P1000T ก็เป็นเครื่องที่รองรับความถี่ 3G แต่ 850/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ dtac, True Move, TOT 3G
ส่วนยี่ห้ออย่าง HTC มีรุ่นที่รองรับ เฉพาะ 3G ความถี่ 850 / 2100 MHz นั้นได้แก่รุ่น Sensation, Desire S และ Wildfire S
ส่วนรุ่นที่เหลือส่วนใหญ่จะรองรับ 3G ความถี่ 900/2100 MHz กันเป็นพื้นฐาน
ยังมี Wellcom, i-mobile ที่ก็มี Android รองรับความถี่ 3G 850/2100 MHz มากมายหลายรุ่นมากครับ รองสอบถามดูได้สำหรับยี่ห้อเหล่านี้
Symbian^3 ยอดความนิยมลดลง แต่ใช้ได้ครอบจักรวาล
ตั้งแต่ Symbian^3 เริ่มถูกแนะนำลงสู่ตลาดนั้น ทุนรุ่นของ Symbian ^3 ก็พร้อมรองรับ 3G ทุกย่านความถี่ หรือที่เรียกกันว่า Penta Band กันหมดเลย คือใช้ได้ทั้งความถี่ 850/900/1700/1900/2100 MHz อันได้แก่รุ่นดังต่อไปนี้ N8, E6, E7, C6-01, C7, X7-00, C3-01, X3-02 นอกจากนั้นยังมีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเผยโฉมกันไปแล้วได้แก่รุ่น 500, 600, 700, 701, N9 ที่พร้อมใช้ได้ทันทีครับ ดูแล้วปวดหัวน้อยสุด ชอบแล้วเลือกเลย ลองเลือกดูถ้าคุณยังศรัทธาใน Nokia Symbian อยู่และยังมองเห็นประโยชน์รวมถึงคุณค่าในการใช้ Symbian ต่อไป ปัจจุบันออกเวอร์ชั่น Symbian Anna ออกมาแล้วและ Symbian Belle ก็เป็นเวอร์ชั่นต่อไปให้คุณได้เลือกใช้กันอีกในปลายปีนี้ครับ
Aircard อุปกรณ์ 3G ที่หาซื้อได้ง่าย และถูกที่สุดที่จะเริ่มใช้ 3G
ถ้าคุณมองหา Aircard ที่จะไปใช้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค หรือเนตบุ๊ค ผมขอแนะนำว่าจะใช้กับระบบใด ก็ไปซื้อหาจากผู้ให้บริการรายนั้นๆ ได้เลย เพราะไม่ว่าจะเป็น TOT 3G, AIS, dtac, True Move ต่างก็มีการจัดทำขึ้นมา และได้ทำมารองรับกันการใช้งานได้เป็นอย่างดี
โดยส่วนใหญ่จะสั่งทำจากผู้ผลิตรายใหญ่ระดับโลกที่เชื่อถือคุณภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น Huawei หรือ ZTE นอกจากนั้นยังมีการทำโปรแกรมมารองรับการเติมเงินในกรณีที่เป็นแบบเติมเงิน รวมถึงยังสามารถเช็คปริมาณการใช้งานที่ผ่านไปได้อีกด้วย ปัจจุบันมี Aircard ที่รองรับ 3G ได้ถึงระดับความเร็ว 42 Mbps กันแล้ว แต่ราคาอาจจะสูงกว่ารุ่นทั่วไปอยู่พอสมควร
แล้วดูอย่างไรว่าตอนนี้ใช้งานโหมด 3G อยู่ในขณะนั้น
สังเกตได้ง่ายมาก ก็คือดูที่สัญลักษณ์ระดับความแรงขอสัญญาณ ซึ่งจะมีตัวหนังสือแสดงผลต่างๆ กันไปเช่น
“G” แสดงว่าจับสัญญาณ GSM แบบ GPRS
“E” แสดงว่าจับสัญญาณ GSM แบบ EDGE
“3G” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ได้แล้วแต่รองรับความเร็วสูงสุดในดาวน์โหลดอยู่ที่ 384 kbps เท่านั้น
“H” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ในโหมด HSPA “High Speed packet access” ซึ่งจะทำให้คุณใช้อินเตอร์เนตได้ที่ความเร็วตั้งแต่ 7.2 Mbps, 10.2 Mbps, 14.4 Mbps สูงสุด ขึ้นอยู่สเปคของเครื่องว่ารองรับได้สูงสุดเท่าไร
“H+” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ในโหมด HSPA+ “High Speed packet access Plus” ซึ่งจะทำให้คุณใช้อินเตอร์เนตได้ที่ความเร็วตั้งแต่ 21 Mbps และสูงสุดที่ 42 Mbps ขึ้นอยู่สเปคของเครื่องว่ารองรับได้สูงสุดเท่าไร
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโทรศัพท์มือถือที่รองรับคู่กันกับระบบเครือข่ายว่ารองรับได้อยู่ที่ความเร็วระดับใด ส่วนในอนาคตเทรนด์ของการรองรับความถี่ที่ใช้ได้บน 3G ก็คงเหมือนอย่างที่ iPhone หรือ Nokia Symbian ทำได้ คือรองรับทุกความถี่ในเครื่องเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ 3G ก็คงง่ายขึ้นกว่าเดิม
และไม่ต้องไปกังวลว่าจะซื้อไปใช้กับระบบใด และจะเปลี่ยนไปใช้ระบบไหนก็ได้ ก็ต้องรอกันอีกสักนิด คาดว่าปีหน้าน่าจะเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ครับ สุดท้ายนี้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนซื้อนะครับ และขอให้มีความสุขกับการใช้ 3G กันอย่างพอเพียงกับงบประมาณในกระเป๋า และความจำเป็นของคุณนะครับ
สำหรับงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ครั้งนี้ จัดวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่เดิม
สำหรับใครที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่อยู่แล้วแนะนำให้คลิกเข้าไปดูโปรโมชั่นเด็ดที่เวบไซต์ www.thailandmobileexpo.com
บทความจากนิตยสาร Whatphone ฉบับเดือนกันยายน 2554
คอลั่มคุยสบายๆ สไตล์ ปีเตอร์กวง twitter @peter2514
แหล่งที่มา thailandmobileexpo.com
เปิดตำรา อ่านสเป็คให้เป็นก่อนเดินงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
เปิดตำรา อ่านสเป็คให้เป็นก่อนเดินงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
เดี๋ยวนี้จะซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องคงต้องหาข้อมูลทำการบ้านให้หนักหน่อย เพราะมีมากมายหลายรุ่น แถมยังมีสเป็คต่างกัน ราคาก็ต่างกันอีก ก่อนเดินงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase หากคุณอ่านสเป็คสมาร์ทโฟนเป็นแล้วก็สามารถเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ ใช้งานได้คุ้มค่าแน่นอน ส่วนจะมีอะไรที่ควรรู้บ้าง ติดตามอ่านได้เลยครับ
หน่วยประมวลผลกลาง (CPU)
หากคุณคิดจะซื้อคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่าคุณต้องถามหาความเร็วซีพียูเป็นอันดับแรก สมาร์ทโฟนก็เช่นกัน เรื่องความเร็วต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง คงไม่มีใครอยากใช้สมาร์ทโฟนความเร็วต่ำๆ เป็นแน่ แต่ความเร็วที่สูงขึ้นก็ตามมาด้วยเงินในกระเป๋าคุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีรุ่นใหม่ที่ความเร็วสูงขึ้น ราคาก็ปรับลงเป็นธรรมดา ซึ่งก็เหมาะกับผู้ใช้ที่มีงบจำกัด เรามาดูกันดีกว่าว่าตอนนี้ในตลาดมีหน่วยประมวลผลหลักๆ ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนอะไรกันบ้าง
ARM
ตัวอย่างรุ่นที่ใช้ ARM Cortex A8
Apple iPhone 4 ความเร็ว 1 GHz
LG Optimus Black ความเร็ว 1 GHz
Nokia N9 ความเร็ว 1 GHz
Samsung Galaxy Tab 7 ความเร็ว 1 GHz
Samsung Wave II ความเร็ว 1 GHz
ตัวอย่างรุ่นที่ใช้ ARM Cortex A9
Acer Iconia Tab A500/A501 ความเร็ว 1 GHz Dual-core
Acer Iconia Tab A100 ความเร็ว 1 GHz Dual-core
Apple iPad 2 ความเร็ว 1 GHz Dual-core
LG Optimus Pad ความเร็ว 1 GHz Dual-core
LG Optimus 2X ความเร็ว 1 GHz Dual-core
LG Optimus 3D ความเร็ว 1 GHz Dual-core
Motorola Atrix ความเร็ว 1 GHz Dual-core
Motorola Xoom ความเร็ว 1 GHz Dual-core
Samsung Galaxy S II ความเร็ว 1.2 GHz Dual-core
Samsung Galaxy R ความเร็ว 1 GHz Dual-core
Samsung Galaxy Tab 10.1 ความเร็ว 1 GHz Dual-core
ตัวอย่างรุ่นที่ใช้ ARM รุ่นอื่นๆ
HTC Flyer ความเร็ว 1.5 GHz
LG Optimus One ความเร็ว 600 MHz
Nokia 500 ความเร็ว 1 GHz
Nokia E6 ความเร็ว 680 MHz
Nokia X7 ความเร็ว 680 MHz
Samsung Galaxy Cooper ความเร็ว 800 MHz
Qualcomm
เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ผลิตอุปกรณ์จำพวกหน่วยประมวลผลสำหรับสมาร์ทโฟนที่ได้รับความไว้วางใจจากหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น HTC, Samsung, LG, Sony Ericsson ซึ่งก็มีความเร็วไม่แพ้กัน ซึ่งทาง Qualcomm ได้ให้ชื่อของหน่วยประมวลผลสำหรับสมาร์ทโฟนชื่อว่า Snapdragon และแบ่ง Class ของหน่วยประมวลผลออกมาเป็น 3 Class มาดูกันดีกว่าว่ารุ่นไหนใช้หน่วยประมวลผลของ Qualcomm Class ไหนกันบ้าง
ตัวอย่างรุ่นที่ใช้ Qualcomm Snapdragon S1
Acer Liquid mini E310 ความเร็ว 600 MHz (MSM722)
Acer beTouch E140 ความเร็ว 600 MHz (MSM722)
HTC ChaCha ความเร็ว 800 MHz (MSM722)
HTC Trophy ความเร็ว 1 GHz (MSM8650)
HTC HD 7 ความเร็ว 1 GHz (MSM8250)
HTC Wildfire S ความเร็ว 600 MHz (MSM8227)
HTC Salsa ความเร็ว 800 MHz (MSM7227)
LG Optimus Net ความเร็ว 800 MHz (MSM7227)
LG Optimus Pro ความเร็ว 800 MHz (MSM7227)
Samsung Galaxy Gio ความเร็ว 800 MHz (MSM7227)
Samsung Galaxy mini ความเร็ว 600 MHz (MSM7227)
Sony Ericsson Xperia X10 ความเร็ว 1 GHz (MSM8250)
ตัวอย่างรุ่นที่ใช้ Qualcomm Snapdragon S2
Acer Iconia Smart ความเร็ว 1 GHz (MSM8255)
HTC Incredible S ความเร็ว 1 GHz (MSM8255)
HTC Desire S ความเร็ว 1 GHz (MSM8255)
Sony Ericsson Xperia Play ความเร็ว 1 GHz (MSM8255)
Sony Ericsson Xperia Arc ความเร็ว 1 GHz (MSM8255)
Samsung Galaxy S Plus ความเร็ว 1.4 GHz (MSM8255)
ตัวอย่างรุ่นที่ใช้ Qualcomm Snapdragon S3
HTC Sensation ความเร็ว 1.2 GHz Dual-core (MSM8260)
HTC EVO 3D ความเร็ว 1.2 GHz Dual-core (MSM8660)
ตัวเลขแสดงความเร็วที่เห็นนั้นเมื่อใช้โปรแกรมทดสอบความเร็วอาจจะเทียบกับรุ่นอื่นที่ความเร็วเท่ากัน หรือความเร็วต่ำกว่าไม่ได้เสมอไป ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผลต่างแบรนด์ เวอร์ชั่นของ Firmware, อินเตอร์เฟสที่ใช้ (User Interface) เป็นต้น ซึ่งมีผลกับความเร็วพอสมควร ดังนั้นควรศึกษาหาข้อมูลจากเวบไซต์ทดสอบสมาร์ทโฟนต่างๆ เพื่อให้ได้รุ่นที่มีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการมากที่สุด
หน่วยประมวลผลภาพ 3D (GPU)
นอกจากหน่วยประมวลผลหลักแล้ว การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันยังต้องเลือกหน่วยประมวลผลภาพ 3 มิติ หรือ GPU ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่นดังนี้
PowerVR SGX 530 เป็นชิพประมวลผลที่ออกมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ความเร็วยังคงเป็นรอง 540 อยู่ สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นที่ชิพรุ่นนี้ได้แก่ LG Optimus Black, Nokia N9 เป็นต้น
PowerVR SGX 540 เป็นชิพประมวลผลรุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า โดยใช้กับ LG Optimus 3D, Samsung Galaxy Tab 7″, Samsung Wave II เป็นต้น
Adreno 200 ชิพประมวลผลที่มีความเร็วกลางๆ เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการความเร็วมากนัก และยังใช้กับรุ่นที่มีราคาไม่แพงด้วย อย่างเช่น Acer Liquid mini, HTC Wildfire S, LG Optimus One, Samsung Galaxy Cooper, Samsung Galaxy mini, Sony Ericsson Xperia X10
Adreno 205 เป็นชิพประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งมักจะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่มีความเร็วในระดับ 800 MHz ถึง 1 GHz โดยใช้กับรุ่นต่อไปนี้ เช่น HTC Desire S, HTC Salsa, HTC HD 7, HTC 7 Mozart, HTC Incredible S, Sony Ericsson Xperia Arc, Samsung Galaxy S Plus เป็นต้น
Adreno 220 ชิพประมวลผล 3D ที่มีความแรงในระดับที่สูงที่สุดในกลุ่ม Adreno โดยใช้กับรุ่น HTC Sensation, HTC EVO 3D
Mali 400MP เป็นชิพประมลผล 3D ที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง ในตลาดตอนนี้มีใช้กับ Samsung Galaxy S II เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น
GeForce Tegra2 เป็นชิพประมวลผล 3D จากค่าย Nvidia ที่มีชื่อเสียงทางด้านชิพประมวลผล 3D ในคอมพิวเตอร์ ผลการทดสอบจากหลายสำนักพบว่า GeForce Tegra2 เป็นชิพที่มีประสิทธิภาพความเร็วสูงที่สุดในกลุ่ม ส่วนมากใช้กับแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพความเร็วสูง ยกตัวอย่างเช่น Acer Iconia A100, Acer Iconia A500/501, Motorola Xoom, Samsung Galaxy R, Samsung Galaxy Tab 10.1, LG Optimus Pad, LG Optimus 2X เป็นต้น
จอแสดงผล
หน้าจอแสดงผลก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญสำหรับโทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟนยุคนี้ ซึ่งก็มีหลากหลายประเภท โดยเฉพาะจอแสดงผลที่ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ล่าสุดที่ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และราคาก็ย่อมสูงตามไปด้วย ส่วนจะมีจอภาพแบบไหนบ้างนั้น เรามาดูกัน
TFT LCD (Thin Film Transistor Liquid Crystal Display) เป็นจอแสดงผลแบบแรกๆ ที่นำมาใช้กับโทรศัพท์มือถือจนถึงทุกวันนี้ ให้สีสันที่ถือว่าสวยงาม แต่ยังไม่สามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง จะต้องใช้ไฟ Back light ส่องสว่างจากด้านหลัง จึงทำให้จอภาพมีความหนาพอสมควร ส่วนรุ่นที่ใช้จอภาพแบบนี้จะเป็นรุ่นที่มีราคาค่อนข้างถูก เพราะเป็นเทคโนโลยีที่เก่าไปแล้ว ตัวอย่างเช่น Acer Liquid mini, HTC Wildfire S, HTC ChaCha, HTC Salsa, Nokia 500, Nokia E6, LG Optimus Net, Samsung Galaxy Tab 7″, Samsung Galaxy Cooper, Sony Ericsson Xperia X10 เป็นต้น
AMOLED (Active Matrix Organic Light Emitting Diode) เป็นจอแสดงผลที่พัฒนาต่อยอดมาจากจอภาพแบบ OLED ให้สีสันสวยงามกว่าจอภาพแบบ TFT อีกทั้งยังไม่ต้องใช้ไฟ Back light ส่องสว่างจากข้างหลัง เพราะแต่ละพิกเซลสามารถเปล่งแสงได้จากตัวมันเอง จึงทำให้จอภาพบาง และยังมองเห็นสีสันได้ในทุกมุมมอง ไม่ผิดเพี้ยน สำหรับรุ่นที่ใช้ก็มี Nokia C7, Nokia N9 เป็นต้น
S-LCD (Super Liquid Crystal Display) จอแสดงผลแบบซุปเปอร์แอลซีดีเป็นจอภาพที่พัฒนาต่อมาจากแบบ TFT แต่ให้สีสัน และความสว่างมากกว่า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อยกว่า จึงนิยมนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในระยะหลังมานี้ รุ่นที่ใช้จอภาพแบบนี้ก็มี HTC Desire S, HTC 7 Mozart, HTC Sensation, HTC HD 7, HTC Incredible S เป็นต้น
IPS LCD (In-Plane Switching Liquid Crystal Display) เป็นจอภาพที่ปรับปรุงเรื่องมุมมองการแสดงผลให้กว้างมากขึ้น จึงทำให้การมองในมุมมองต่างๆ สีไม่ผิดเพี้ยน และยังปรับปรุงเรื่องความสว่างของหน้าจอให้สว่างมากขึ้นด้วย ดังจะเห็นจากหน้าจอของ LG Optimus Black ที่สว่างมากที่สุดในโลก สำหรับรุ่นที่ใช้จอภาพแบบนี้ก็มี LG Optimus 2X, Apple iPad 2, iPhone 4 หรือที่ทาง Apple เรียกว่าจอ Retina Display ที่มีความละเอียดจนตาของคนไม่สามารถมองเห็นจุดพิกเซลได้นั่นเอง
Super Clear LCD เป็นจอแสดงผลที่ทาง Samsung พัฒนาออกมาโดยปรับปรุงในเรื่องของความละเอียดของหน้าจอ และปรับความสว่างให้มากขึ้น มีเพียงไม่กี่รุ่นที่ใช้ อย่างเช่น Samsung Galaxy SL, Samsung Galaxy R, Samsung Wave II
Super AMOLED เป็นจอแสดงผลที่ทาง Samsung พัฒนาขึ้นมาเช่นกัน โดยปรับปรุงเรื่องสีสันให้จัดจ้านมากขึ้น โดยมี Samsung Galaxy S เป็นรุ่นแรกที่เปิดตัว และตามมาด้วย Samsung Wave รุ่นแรก
Super AMOLED Plus สำหรับจอ Super AMOLED ที่ทาง Samsung ไม่หยุดพัฒนาเพียงเท่านั้น ยังพัฒนาต่อออกมาเป็น Super AMOLED Plus สำหรับเปิดตัว Samsung Galaxy S II โดยเฉพาะ ให้สีสันที่จัดจ้านมากกว่าเดิม ทำให้ภาพที่ปรากฎบนหน้าจอดูสวยงาม น่าใช้งาน และมีเพียงรุ่นเดียวในตลาดที่ใช้จอภาพแบบนี้
3D LCD ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีในจอแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือ คือสามารถแสดงผลในแบบธรรมดาสองมิติ หรือแบบสามมิติ โดยสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตา ในขณะนี้มีเพียง 2 รุ่นเท่านั้นที่ใช้จอภาพแบบ 3D LCD ได้แก่ LG Optimus 3D และ HTC EVO 3D
นอกจากเรื่องหน่วยประมวลผล, หน่วยประมวลผล 3D และเทคโนโลยีจอภาพที่ควรรู้แล้ว หากรู้เรื่องหน่วยความจำติดตัวไปด้วยก็น่าจะช่วยตัดสินใจได้ไม่ยาก สำหรับหน่วยความจำในเครื่องนั้นควรดูที่ความต้องการของเราเป็นหลัก หากใช้งานด้านเอกสาร ดาวน์โหลดเพลงเก็บไว้ฟังบ้างก็ควรจะมีความจุตั้งแต่ 2-4 GB กำลังดี ถ้าชอบดาวน์โหลดแอพฯ เพิ่มเติมก็จัดไป 8 GB น่าจะเหมาะ แต่หากชอบแปลงคลิปวิดีโอเก็บไปดูนอกบ้านแล้วล่ะก็ 16-32 GB ไปเลยดีกว่า
ใครที่สนใจจะซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ หรือแทบเลต และอยากทราบโปรโมชั่น และสินค้าราคาพิเศษในงานสามารถติดตามที่นี่ได้ตลอดเลยนะครับ Update ตลอดทุกวัน ครับผม
ขอบคุณข้อมูลจาก Thailand Mobile Expo
วีธีเช็คโทรศัพท์ สมาร์ทโฟนเบื้องต้น ก่อนเสียเงินซื้อเครื่องห่วยกลับบ้าน !!
Mobile Expo: วีธีเช็คโทรศัพท์ สมาร์ทโฟนเบื้องต้น ก่อนเสียเงินซื้อเครื่องห่วยกลับบ้าน !!
ใกล้งาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase เข้าไปทุกที เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน งานโทรศัพท์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศก็จะเริ่มขึ้นแล้วครับ (ดูโปรโมชั่นทั้งหมดได้ที่นี่) พวกเราหลายๆ คนคงคิดที่จะเปลี่ยนมือถือใหม่กันในงานนี้ เพราะหวังจะได้เครื่องใหม่ ราคาพิเศษพร้อมของแถมอีกเพียบ แต่คงไม่มีใครที่อยากเจอกับเครื่องใหม่ที่เราซื้อมานั้น พอกลับถึงบ้านแล้วพบว่ามีปัญหา จะเอากลับไปเปลี่ยนบางเจ้าเค้าก็ไม่รับเปลี่ยนคืน วันนี้เรามีวิธีเช็คเครื่องในงานเบื้องต้นก่อนที่จะจ่ายเงิน และกลับบ้าน ไม่งั้นเงินที่เก็บมาเป็นเดือนๆ ปีๆ จะต้องเสียไปกับเครื่องที่ QC ห่วยๆ
1. เช็ค Stuck Pixel และ Death Pixel
Stuck pixel คือ จุดที่เมื่อจอแสดงภาพสีดำสนิท จะสังเกตเห็นว่าจุดบางจุดบนจอสว่างอย่างถาวร โดยจุดที่สว่างอาจเป็นสีแดง น้ำเงิน หรือเขียว ก็ได้ และถึงแม้จอจะเปลี่ยนไปแสดงภาพสีอื่นๆ จุดสว่างดังกล่าวก็ยังสว่างค้างเป็นสีเดิมอยู่
Death pixel คือ จุดๆหนึ่ง ตายสนิทแน่นิ่งไม่ตอบสนองต่อแสงเลย จุดอื่นเค้าได้รับสีอะไรก็แปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าตามแต่ละสี แต่จุดนี้ได้รับสีอะไร ก็ไม่รับรู้ ไม่ส่งสัญญาณไฟฟ้าออกไป ทำให้จุดนั้นในไฟล์บอดสนิทหลายต่อหลายคนซื้อมือถือไปโดยลืมเช็ค Stuck pixel และ Death pixel ทำให้ต้องเสียความรู้สึก ดังนั้นเราจึงไม่ควรลืมที่จะเช็คให้ดีก่อนออกจากร้านครับ
สำหรับวิธีเช็ค
1).ขอให้ทางร้านเช็คให้ โดยการลงโปรแกรม
2).ถ้าทางร้านไม่มีโปรแกรมให้เช็ค ลองถ่ายรูปโดย เอามือปิดหรือเอาผ้าสีดำปิดที่กล้องอย่าให้มีแสงเข้าเพื่อให้หน้าจอได้แสดง สีดำสนิท และเช็คดูว่ามี Stuck pixel ตรงไหนหรือเปล่า (ช่วยได้บ้างการณีที่ทางร้านไม่มีโปรแกรมให้เช็ค)
3).หรือถ้าที่ร้านไม่มีโปรแกรมเช็คก็ลองเข้าเว็บไซต์ htcsociety ครับ ลองพลิกหน้าจอกลับไปกลับมาตรวจหา Death pixel, Stuck pixel กันดู
2.เช็คอาการแสงลอด (bleeding screen)
ลองเอามือบังดูหรือดูในที่มืดๆครับ ดูตามขอบจอครับว่ามีแสงลอดออกมาหรือเปล่า
3.เช็คเสียง
เช็คลำโพงครับว่ามีเสียงแตกหรือเปล่า
4.เช็ค IMEI และ S/N (Serial Number)
เช็ค IMEI และ S/N (Serial Number) ที่สติ๊กเกอร์ข้างกล่องและช่องใส่แบตจะต้องตรงกัน เครื่องว่าตรงกับกล่องหรือเปล่า
5.ตรวจดูอุปกรณ์ในกล่องว่าครบหรือไม่เช่น สายเคเบิ้ล USB, หูฟัง, แบตเตอร์รี่, สายชาร์ท, คู่มือ, ใบรับประกัน
6.ตรวจสอบตัวเครื่องโดยรอบดูความเสียหายของตัวเครื่องทั้ง รอยขีดข่วน รอยขนแมว รอยบิ่น หักและชำรุด ถ้ามีให้รีบแจ้งกับพนักงานขายให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ทันที
7.ลองโทรออกทดสอบคุณภาพเสียงสนทนา, เช็ค Bluetooth หรือ การเชื่อมต่อ Wi-Fi ด้วยถ้ามี
เท่านี้คุณก็จะไม่ต้องปวดหัวกับมือถือเครื่องใหม่ ที่จ่ายเงินเต็ม แต่ได้ของไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป ขอให้โชคดี และมีความสุขกับสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ครับ ^^
by Kittipong TechXcite
source: pantip, htcsociety
ส่องกล้อง มองมือถือใหม่ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
Mobile Expo: ส่องกล้อง มองมือถือใหม่ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase
กลับมาประจำการ รายงานโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อีกครั้ง กับมหกรรมโทรศัพท์มือถือครั้งใหญ่ส่งปลายปี ซึ่งจะจัดขึ้นภายในวันที่29 กันยายน – 2 ตุลาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ดูกันว่าจะมีโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตรุ่นไหนที่จะมาจำหน่ายในงาน ถ้าหากไม่จำหน่ายก็อาจจะมีให้จอง หรือให้ได้ลองเล่นกัน มีรุ่นไหนบ้างนั้น เรามาดูกัน
Nokia N9
หลังจากเปิดตัว Nokia N8 ที่ถือเป็นไฮไลท์ไปแล้วเมื่อต้นปี และเมื่อกลางปีที่ผ่านมาก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยการเปิดตัว Nokia N9ที่ปฏิวัติสมาร์ทโฟนของ Nokia ด้วยระบบปฏิบัติการ MEEGO รุ่นแรก ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 3.9 นิ้ว จอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียดสูง ทนรอยขีดข่วน ตัวเครื่องทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนทขึ้นรูปชิ้นเดียว จึงไม่มีรอยต่อให้ระคายมือ
นอกจากนี้ยังมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอระดับ HD หน่วยประมวลผลมีความเร็ว 1 GHz รุ่นแรกของ พร้อมตัวชิพประมวลผลภาพ 3D หน่วยความจำในตัว 16 GB มีเทคโนโลยี NFC ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างเช่นลำโพงไร้สาย Nokia Play 360 ตัวเครื่องรองรับความถี่ 3G ความเร็วสูงสุด 14.4 Mbps สำหรับรุ่นนี้ถ้ามาทันวางจำหน่ายในงานก็เตรียมเก็บเงินซื้อได้เลย
Nokia Oro
นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่เห็นมือถือสุดหรูจาก Nokia นับตั้งแต่ 8800 ที่มีออกมาในหลายเวอร์ชั่น ดึงดูดเงินในกระเป๋าไฮโซไปนักต่อนัก มาถึง Nokia Oro ที่มาในแบบของสมาร์ทโฟน Symbian Anna เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องบางส่วนทำจากทอง 18 กะรัต มาพร้อมชุดหูฟังไร้สายบลูทูธที่ทำจากวัสดุทอง 18 กะรัตด้วยเช่นกัน และบางส่วนยังเป็นสแตนเลส-สตีล หรูหราไร้ที่ติ อินเตอร์เฟสยังใช้ธีมที่เข้ากับสีทองของตัวเครื่อง ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเครื่องก็มีทั้งหน่วยความจำภายใน 8 GB เพิ่มmicroSD ได้ หน้าจอ AMOLED แบบสัมผัส กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอแบบ HD เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในระบบ 3G หรือ Wi-Fi แต่จะมีมาจำหน่ายทันในงานหรือไม่นั้น งานนี้ไฮโซกระเป๋าหนักต้องรอลุ้น
Nokia 500
Nokia 500 ที่ดูหน้าตาธรรมดาๆ แต่แฝงไปด้วยระบบปฏิบัติการ Symbian Anna อินเตอร์เฟสสวยงาม สั่งงานผ่านหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 หน่วยความจำภายในขนาด 2 GB เพิ่ม microSD ได้อีกสูงสุด 32 GB จุดเด่นของรุ่นนี้เห็นจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนฝาหลังสีจี๊ดได้ตามใจ เพราะแถมมาให้ในกล่องอีก 2 สี ถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลในระบบ Full focus หรือในแบบโฟกัสคงที่ ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด VGA เชื่อมต่อระบบ 3G, Wi-Fi ระบบนำทาง GPS ครบครัน ส่วนราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าไม่น่าจะเกินหมื่น ใครที่อยากได้สมาร์ทโฟนซิมเบี้ยนราคาประหยัดก็เตรียมตัวหยอดกระปุกรอไว้ได้เลย
Nokia C5 5MP
สมาร์ทโฟนบาร์ไทป์ หรือรูปทรงแบบแท่งเคยปรากฎให้เห็นแล้วในช่วงที่ผ่านมา คราวนี้อัพเกรดตัวเองจาก 3 ล้านพิกเซลเป็น 5 ล้านพิกเซลตามชื่อรุ่น 5MP แต่ยังเป็นระบบโฟกัสแบบคงที่ ส่วนระบบปฏิบัติการยังคงเป็น Symbian เวอร์ชั่น 9.3 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลความเร็ว 600 MHz ตัวเครื่องยังคงรองรับการเชื่อมต่อ 3G ระบบนำทาง GPS ถ้ายังคงชอบการใช้งานที่เป็นโทรศัพท์มือถือจริงๆ แต่ยังอยากได้ฟังก์ชั่นของสมาร์ทโฟนก็มีรุ่นนี้นี่แหละที่ตอบโจทย์
Apple iPad 2
มีวางจำหน่ายไปแล้วในบ้านเราสักพักใหญ่ๆ แต่สำหรับ Operator ในบ้านเราก็พึ่งจะมี True ที่นำเข้ามาจำหน่ายรายแรก สรรพคุณของ iPad 2 นั้นก็แทบไม่ต้องบรรยายมาก เพราะน่าจะรู้กันไปแล้ว จุดเด่นคงจะเป็นเรื่องของการปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้นจาก iPad รุ่นแรก อย่างเช่นตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาลง บางขึ้น เร็วขึ้นด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Dual-core ความเร็ว 1 GHzระบบปฏิบัติการ iOS ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ทั่วโลก อีกทั้งยังมีแอพพลิเคชั่นสนับสนุนอีกนับไม่ถ้วน แต่ขอบอกว่างานนี้True คงอัดโปรโมชั่นแพ็คเก็จการใช้งานอินเตอร์เน็ต 3G อย่างหนักแน่นอน เตรียมเงินกระเป๋าให้พร้อมก็แล้วกัน
Samsung Galaxy R
จากที่เปิดจองไปแล้วเมื่องานคราวก่อนพร้อมโปรโมชั่นจัดหนักของ Samsung Galaxy S II มาถึง Galaxy S รุ่นแรกที่น่าจะถูกแทนที่ด้วย Galaxy R ที่น่าจะเปิดตัวด้วยราคาที่ถูกกว่า กับสเป็คที่ปรับลดลงมาเป็นซีพียูความเร็ว 1 GHz แบบ Dual-core พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ 3D แยกต่างหาก หน้าจอสีสันสดใสสมจริงแบบ Super Clear LCD ครบครันด้วยมัลติมีเดียอย่างเช่นกล้อง 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอแบบ HD เปิดตัวด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.3
Samsung Galaxy Tab 10.1
Samsung Galaxy Tab 10.1 (รีวิว) รุ่นนี้ก็เปิดจองในงานคราวที่แล้วเหมือนกัน แต่คราวนี้น่าจะมีจำหน่ายในงานแข่งกับ iPad 2 แน่นอน ด้วยขนาดหน้าจอถึง 10.1 นิ้ว กับน้ำหนักที่ถือว่าค่อนข้างเบาคือ 595 กรัม ใช้จอภาพ Crystal Clear แบบสัมผัส ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 3.1 Honeycomb ที่ถูกออกแบบมาให้สำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ หน่วยประมวลผลแบบDual core ความเร็ว 1 GHz น่าจะมีความเร็วเพียงพอกับแอพพลิเคชั่นที่จะมารองรับ
Samsung Galaxy Tab 10.1 ยังคงมีกล้องดิจิตอลมาให้ความละเอียดสูงถึง 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัสมา มีไฟแฟลชแบบ LED และยังถ่ายวิดีโอความละเอียดในระดับ HD 720p ความจุที่มีจำหน่ายในบ้านเราตอนนี้มีเพียง 16 GB มีช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำแบบ รองรับสูงถึง 32 GB การเชื่อมต่อ ถือเป็นหัวใจสำคัญของแท็บเล็ตรุ่นใหม่ โดยที่ Samsung Galaxy Tab 10.1 รองรับ 3G ความเร็วสูงสุดถึง 21 Mbps รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาตรฐาน b/g/n
Samsung Galaxy Tab 10.1 3G+WiFi ราคา 18,900 บาท
Samsung Galaxy Tab 10.1 WiFi ราคา 14,900 บาท
ของแถม: USB Connector มูลค่า 590 บาท
Samsung Galaxy Tab 8.9
หากคิดว่า 10.1 ใหญ่เกินไป ลองดูรุ่น Samsung Galaxy Tab 8.9 นิ้ว กับน้ำหนัก 470 กรัม น่าจะยังพอถือมือเดียวไหว ตัวเครื่องยังใช้ระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb ซึ่งออกแบบมาสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ มีอินเตอร์เฟสที่ใช้สวยงาม และใช้งานง่ายกว่าเดิม มีให้เลือกทั้งความจุ 16, 32 และ 64 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB หน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz แบบ Dual core เชื่อมต่อไร้สายครบครันทั้ง 3G, Wi-Fi ส่วนกล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ถ่ายวิดีโอความละเอียด HD 720p
จากงานคราวก่อนมีให้ได้จับตัวเป็นๆ ในงาน หากใครได้สัมผัสเป็นต้องวางไม่ลงเพราะทึ่งกับการแสดงผลแบบ 3 มิติที่บอกได้คำเดียวว่าไม่มีใครเหมือน ทั้งการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เล่นเกมเป็นระบบ 3 มิติทั้งหมด หน่วยประมวลผลแบบ Dual coreความเร็วไม่น้อยหน้าใคร 1 GHz มีหน่วยประมวลผลแบบ 3D ช่วยต่างหาก ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 ที่รออัพเกรดเป็น2.3 ได้ แต่หากวางจำหน่ายในงานอาจจะเป็น 2.3 มาเลยก็ได้ ใครที่อยากลองของใหม่ด้วยสุดยอดสมาร์ทโฟน 3D รุ่นแรก บอกได้เลยว่าห้ามพลาด ราคา 18,900 บาท
LG Optimus White
ในเมื่อออก Optimus Black (รีวิว) ไปแล้ว LG ก็เลยออกรุ่น Optimus White ให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย สเป็คโดยรวมแล้วยังคงคล้ายกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผลแบบ Single-core ความเร็ว 1 GHz พร้อมชิพประมวลผลภาพ 3D หน่วยความจำภายใน 2 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB จอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 4 นิ้วที่ให้ความคมชัดกว่าจอภาพทั่วไป ส่วนกล้องดิจิตอลความละเอียดมีมาให้ 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ HD 720p ระบบความบันเทิงมาเต็ม ทั้งเครื่องเล่นเพลง วิทยุ FM ในด้านการเชื่อมต่อก็ไม่ขาด ทั้ง 3G, Wi-Fi, บลูทูธ ระบบนำทาง GPS
LG Optimus Pro
สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ส่วนมากจะเป็นจอสัมผัสเสียส่วนใหญ่ หรือถ้าหากมีคีย์บอร์ดก็อาจจะซ่อนอยู่ด้านข้าง แต่ถ้าเป็น LG Optimus Pro รุ่นนี้มาเต็ม ไม่ต้องสไลด์ให้วุ่นวาย เพราะมีคีย์บอร์ดมาให้เลยในตัว จะเม้นท์ หรือแชทก็ไม่มีปัญหา รุ่นนี้มาพร้อมเวอร์ชั่น 2.3.3 หน่วยประมวลผลความเร็ว 800 MHz ที่ถือว่าไม่ขี่เหร่ กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปหรือคลิปวิดีโอแบบขำๆ ระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมาครบทั้ง 3G และ Wi-Fi มีระบบนำทาง GPS ที่ถือว่าเป็นมาตรฐาน ราคาเปิดตัวไม่น่าจะแรง รอดูตัวจริงในงานเลยก็แล้วกัน
LG Optimus Net
รุ่นนี้น่าจะมาแทน Optimus One (รีวิว) ที่ออกมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว มาถึง Optimus Net ที่อัพเกรดซีพียูมาที่ความเร็ว800 MHz หน้าจอสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ จำหน่ายเวอร์ชั่นไหนต้องรอลุ้นในกล่อง เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน 3G และ Wi-Fi รองรับโซเชียลเน็ตเวิร์คพร้อม แอพพลิเคชั่นมีให้รอโหลดนับแสนในแอนดรอยด์มาเก็ตไม่แพ้รุ่นใหญ่ ส่วนราคาน่าจะไม่เกินหมื่น หากต้องการเปลี่ยนมาใช้แอนดรอยด์เครื่องแรก LG Optimus Net เป็นอีกรุ่นที่เราแนะนำ
HTC EVO 3D
ในยุคที่อะไรๆ ก็ 3D สมาร์ทโฟนจาก HTC ก็เลยต้องจัด 3D ตามไปด้วยจอแสดงผลแบบ 3D รุ่นแรกขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว พร้อมด้วยอินเตอร์เฟสแบบ HTC Sense ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม น่าใช้งาน เท่านั้นยังไม่พอ ยังอัดกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลสำหรับการถ่ายภาพในแบบปกติ และ 2 ล้านพิกเซลในการถ่ายภาพแบบ 3D รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD 720p ทั้งในแบบ 2D และ 3D จัดหนักด้วยหน่วยประมวลผล แบบ Dual core ความเร็วถึง 1.2 GHz มีหน่วยประมวลผลแบบ 3Dช่วยต่างหาก แต่หน่วยความจำภายในมีมาให้น้อยไปหน่อยแค่ 1 GB แต่ก็สามารถเพิ่มได้อีก 32 GB ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ตามสมัยนิยม เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่าน 3G, Wi-Fi ระบบนำทาง GPS เข็มทิศดิจิตอล ใครที่อยากลองของใหม่ด้วยสุดยอดสมาร์ทโฟน 3D รุ่นแรกของ HTC บอกได้เลยว่าห้ามพลาด
Motorola MOTOKEY XT EX118
ชื่อรุ่นอาจจะยาวสักหน่อย เอาเป็นว่าเราเรียกเป็น EX118 ก็แล้วกัน เพราะดูเหมือนจะมีรุ่นอื่นที่ใช้ MOTOKEY ออกตามมาอีก สำหรับ Motorola EX118 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY มาให้ในตัว แถมยังเป็นจอแบบสัมผัส แตะสั่งงานได้สะดวก หากหวังว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์คงต้องคิดผิด เพราะรุ่นนี้ยังไม่แน่ชัดว่าใช้ระบบปฏิบัติการของอะไร เอาเป็นว่าน่าจะเป็นเพียงฟีเจอร์โฟนติดคีย์บอร์ดมาให้ก็แล้วกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานก็ไม่มีอะไรมากมาย มีเพียงกล้อง 3 ล้านพิกเซล เครื่องเล่นเพลง วิทยุ FM รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน GPRS/EDGE เท่านั้น ต้องรอดูว่าจะมาทันจำหน่ายในงานหรือไม่ อาจจะมีตัวโชว์ให้ได้ลองกดเล่นกัน
Sony Ericsson Mix Walkman
ห่างหายจากวงการมานาน กลับมาพร้อม Walkman หน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD 32 GB ให้คุณจุเพลงได้อย่างเต็มที่ มีฟังก์ชั่น SenseMe สำหรับเลือกเล่นเพลงตามอารมณ์ ค้นหาชื่อเพลงด้วยฟังก์ชั่นTrackID ยังคงมีมาให้ครบ นอกจากนี้ก็ยังมีกล้องความละเอียด 3.15 ล้านพิกเซล เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่าน Wi-Fi แต่น่าเสียดายที่รองรับเฉพาะ GPRS/EDGE เท่านั้น เอาเป็นว่าใครที่คิดถึงเครื่องเล่นเพลง Walkman ของ Sony Ericssonก็จัดรุ่นนี้ไปได้เลย
Sony Ericsson Xperia mini
มีแตกรุ่น Xperia ออกมาหลายต่อหลายรุ่น มาถึง Sony Ericsson Xperia mini กับหน้าจอไซส์มินิ 3.0 นิ้ว และยังใช้เทคโนโลยี Sony Mobile BRAVIA Engine ด้วย ฟังก์ชั่นเด่นๆ ของรุ่นนี้เห็นจะเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 2.3 ทำงานด้วยความเร็ว 1 GHz พร้อมชิพประมวลผลภาพ 3D กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส ถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ HD 720p เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายทั้ง 3G, Wi-Fi ระบบนำทาง GPS พร้อมเข็มทิศดิจิตอล หากไม่ชอบสมาร์ทโฟนไซส์ใหญ่ แนะนำแอนดรอยด์ไซส์มินิเครื่องนี้ดู (ดูโปรโมชั่น Sony Ericsson ล่าสุดในงานได้ที่นี่เลยครับ)
BlackBerry Bold 9900
สาวกบีบีคงเริ่มอยากจะเปลี่ยนรุ่นใหม่กันแล้วใช่ไหม เพราะนับตั้งแต่ BlackBerry Bold 9700, 9780 ก็ไม่เปลี่ยนรูปแบบอีกเลย มาถึงคราวนี้ BlackBerry Bold 9900 ก็มาพร้อมทั้งหน้าจอสัมผัส และคีย์บอร์ด QWERTY ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวบีบี หน้าจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้วความละเอียดสูง ระบบปฏิบัติการ BlackBerry เวอร์ชั่น 7 ใหม่ล่าสุด กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียด HD 720p นอกจากนี้ยังมีหน่วยความจำภายในมาให้ถึง 8 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB แรงสุดกับหน่วยประมวลผลความเร็วสูงถึง 1.2 GHz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายครบ ทั้ง 3G, Wi-Fi
BlackBerry Torch 9860
มีไม่น้อยเหมือนกันที่สาวกบีบีชอบหน้าจอแบบสัมผัส BlackBerry Torch 9860 จึงออกมาสานต่อ ด้วยสเป็คที่แรงกว่าเดิมถึง 1.2 GHz บนระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7 สั่งงานบนหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 3.7 นิ้ว และยังมี Optical Trackpad แถมพ่วงมาให้ด้วย กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ HD 720p เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่าน 3G ความเร็ว 14.4 Mbps และ Wi-Fi มาตรฐาน b/g/n ส่วนโซเชียลเน็ตเวิร์คก็มีมาให้ครบตามมาตรฐานบีบี รุ่นนี้คาดว่าน่าจะมีตัวโชว์ให้ลองสัมผัสในงาน
BlackBerry Torch 9810
ส่วนใครที่ขาดไม่ได้ทั้งหน้าจอสัมผัส และคีย์บอร์ดคงต้องจัด Torch 9810 มาไว้คู่กาย ด้วยหน้าตาไม่ต่างจากรุ่นเดิมเท่าใดนัก แต่จัดหนักมาด้วยหน่วยประมวลผลความเร็วสูง 1.2 GHz ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7 เวอร์ชั่นล่าสุด กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล รองรับมัลติมีเดียครบสมบูรณ์แบบ หากมาทันในงานคงมีเฮแน่ๆ
Acer Iconia Tab A501
มาดูที่ค่ายเอเซอร์กันบ้าง หลังจากที่เปิดตัว และจำหน่าย Acer Iconia Tab A500 (รีวิว) ไปแล้ว ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อเฉพาะ Wi-Fi มาถึงงานนี้น่าจะทันจำหน่าย Acer Iconia Tab A501 ที่เพิ่มช่องใส่ซิมการ์ดเพื่อเชื่อมต่อในระบบ 3G ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Dual core ความเร็ว 1 GHz และชิปประมวลผลภาพ 3D แยกต่างหาก มีหน่วยความจำภายใน 16 หรือ 32 GB ให้เลือก เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB ส่วนความบันเทิงก็มีกล้องดิจิตอลมาให้ 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส นับว่าเป็นแท็บเล็ตอีกรุ่นที่น่าจับตามอง
Acer Iconia Tab A100
Acer Iconia Tab A100 ที่จะมาขายในงาน Thailand Mobile Expo ปลายเดือนกันยายนนี้ ยืนยันมาแล้วว่าจะมาพร้อมกับ Android 3.2 Honeycomb แน่นอน สเปคนั้นมาพร้อม NVIDIA Tegra 250 Dual Core 1GHz หน้าจอLED ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1280x800 พิกเซล มีลำโพงสเตอริโอ หน่วยความจำภายใน 16GB รองรับกาารเชื่อมต่อWi-Fi และ HDMI ราคา 12,900 บาท
ทุกรุ่นที่มาแนะนำในคอลัมน์นี้เป็นรุ่นใหม่ที่เราคาดการณ์ว่าจะเปิดตัว หรือวางจำหน่ายในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase (เช็คโปรโมชั่นล่าสุดได้ที่นี่) ครั้งนี้ ซึ่งบางรุ่นก็อาจจะเปิดจองรอรับเครื่องก่อนใคร สำหรับใครที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่อยู่แล้วแนะนำให้คลิกเข้าไปดูโปรโมชั่นเด็ดที่เวบไซต์ www.thailandmobileexpo.com โดยงานครั้งต่อไปจะจัดวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่เดิม แล้วพบกันในงานครับ
source: thailandmobileexpo