Review: Vivo V20 ที่สุดแห่งการถ่ายภาพได้อย่างกล้องมืออาชีพ มืดแค่ไหนก็เซลฟี่ได้คมชัด 44MP พร้อมแบตเตอรี่ชาร์จไว 33W!!

แกะกล่องและดีไซน์

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ วันนี้กู๊ดดรีม TechXcite มาส่งรีวิวกันอย่างต่อเนื่อง รอบนี้ดรีมมาพร้อมกับมือถือที่จัดว่าถ่ายรูปได้สวยมากๆ เทียบฉันมืออาชีพได้เลยกับ Vivo V20 ก่อนหน้านี้ดรีมได้รีวิว Vivo V20 Pro ซึ่งเป็นตัวรุ่นพี่กันไปแล้ว มาดูตัวรุ่นน้องกันบ้าง ว่าจะมีทีเด็ดอะไร จะน่าใช้งานเหมือนตัวรุ่นพี่หรือไม่ วันนี้มารีวิวกันแบบละเอียดให้ทุกคนได้อ่านกัน นอกจากนี้ยังจัดเต็มภาพตัวอย่างมาให้ดูกันแบบแน่นๆ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ แต่ก่อนอื่นเราไปเริ่มต้นแกะกล่องออกมาเลยดีกว่าว่าด้านในเขามีอะไรมาให้บ้าง

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง

เครื่อง Vivo V20
เคสใส
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
อแดปเตอร์
สายชาร์จ USB-C
หูฟัง

ตัวของเคสใสที่ให้มานั้นมีความยืดหยุ่นสูง จับมาบิด หัก งอยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีรอยแตก รอยพับอะไร ใส่เข้าไปกระชับเข้ากับตัวเครื่องดีมาก

ส่วนอแดปเตอร์ของ Vivo ที่ให้มานั้นค่อนข้างตัวใหญ่พอควรเลยนะ มีข้อความ Vivo FlashCharge 2.0 พร้อมรายละเอียดด้านหลัง

สายชาร์จที่ให้มาเป็น USB-C มีโลโก้ Vivo สลักชัดเจน อุปกรณ์ต่างๆให้มาอย่างครบครันภายในกล่อง ทั้งเคสใสและก็หูฟังที่หลายรุ่นนั้นเลิกแถมกันไปแล้วแต่ใน Vivo V20 ยังแถมมาให้อยู่ ดูอุปกรณ์ทุกอย่างนั้นถูกจัดวางกันอย่างเป็นระเบียบลงล็อคอย่างแน่นหนา ตัวกล่องใช่สีน้ำเงินเป็นหลักมีชื่อรุ่นบอกชัดเจนที่หน้ากล่องว่า V20

ดีไซน์

มาดูดีไซน์ของตัว V20 กัน เริ่มต้นกันที่หน้าจอให้ขนาดมาอยู่ที่ 6.44 นิ้ว เป็นจอ AMOLED แสดงผลสวยงามเต็มตา กล้องหน้าให้มา 1 ตัวเป็นรูปแบบของทรงหยดน้ำเล็กๆตรงกลางด้านบนหน้าจอ ซึ่งไม่สร้างความเกะกะสายตาหรือไม่รู้สึกหงุดหงิดในการใช้งานสักเท่าไหร่ ตัวรุ่นพี่อย่าง Vivo V20 Pro จะให้กล้องหน้ามา 2 ตัวเป็นความแตกต่างกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง

มาต่อกันที่ดีไซน์ฝาหลัง มาพร้อมกล้องทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน รูปแบบการจัดวางกล้องนั้นเหมือนกันทั้งตัวรุ่นพี่รุ่นน้อง ตัวกล้องทั้ง 3 ถูกวางล้อมกรอบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว กล้องค่อนข้างนูนออกมาจากตัวเครื่องพอสมควร มีข้อความด้านล่างว่า ASPH ในขณะที่ตัวของ Vivo V20 Pro จะเป็นคำว่า Hybrid Zoom

ขอบจอจะไม่ได้เรียบแบนแต่มาพร้อมความโค้ง 2.5D ช่วยให้การจับถือนั้นมันกระชับมากกว่าเดิม น้ำหนักก็เบาเพียง 171 กรัม เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของดีไซน์ใน V20

เรื่องของสีสันก็เตะตาสุดๆ สีที่ดรีมได้มาคือ Sunset Melody ที่มีการเล่นสีสันแบบจัดจ้านสดใส แรงบันดาลใจ Vivo บอกว่ามันมาจากบรรยากาศชายหาดยามพระอาทิตย์ตก ตัวเครื่องจะมีการเล่นสีสันที่หลากหลายตั้งแต่สีเหลืองอมส้มไล่ไปจนถึงสีน้ำเงิน เมื่อพลิกเครื่องไปมาก็จะปรากฏสีสันที่แตกต่างกันไป พอมันสะท้อนโดนแสงแดดบอกเลยว่าสวยมากๆ เด่นสะดุดตากันแบบสุดๆ

ที่ขอบทางด้านขวาของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง อยู่ในฝั่งเดียวกับปุ่ม power เพื่อเปิด-ปิดเครื่อง ซึ่งปุ่ม power มีการเล่นดีเทลผิวสัมผัสแบบด้าน ดรีมคิดว่าเจตนาของสิ่งนี้เพื่อให้นิ้วไม่รู้สึกสับสนว่าปุ่มไหนคือ power ปุ่มไหนคือปุ่ม volume ซึ่งก็จัดว่าเป็นไอเดียที่ดี และลดความสับสนไปได้มากทีเดียว

ขอบทางด้านซ้ายเป็นตำแหน่งของถาดซิมที่สามารถใส่ได้ 1 micro SD card และ 2 ซิมการ์ด

และบริเวณฐานด้านล่างก็เป็นตำแหน่งของช่องเสียบหูฟัง 3.5 ถัดมาเป็นพอร์ตชาร์จ USB-C และลำโพง 1 ฝั่ง ซึ่งส่วนนี้เป็นความต่างอย่างชัดเจนระหว่าง Vivo V20 กับ Vivo V20 Pro โดยตัว V20 Pro จะทำการตัดช่องเสียบหูฟังออกไป แล้วแทนที่ด้วยถาดซิมแทน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วจะรู้สึกชอบการมีอยู่ของช่องเสียบหูฟังมากกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย โดยรวมเรื่องของดีไซน์มีความสวยงามมากๆ ทั้งลวดลายของฝาหลัง ตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเบา ทำให้การใช้งานนั้นมันกระชับและสะดวกขึ้นกว่าเดิม

สเปคการใช้งาน

หน้าจอ AMOLED FHD+ 6.44
อัตราส่วนหน้าจอ 20:9
หน่วยประมวลผล Snapdragon 720G
ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 10.5 Android 10
RAM 8GB
ความจุ 128GB
กล้องหน้า 44MP
กล้องหลัง 4 ตัว
- 648MP กล้องหลัก
- 8MP เลนส์ Ultra-Wide
- 2MP เลนส์ Mono
รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
รองรับระบบสแกนใบหน้า
แบตเตอรี่ 4000mAh
รองรับชาร์จไว 33W

การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง

CPU ของ Vivo V20 เป็น Qualcomn Snapdragon 720G ทำงานควบคู่กับ RAM 8 GB และ ROM 128 GB ซึ่งการเล่นเกมก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนใช้งานกันบนสมาร์ทโฟนมากที่สุด เช็ดตัวนี้จะสามารถเล่นเกมได้ดีแค่ไหน จะเอาอยู่กับเกมกราฟิกจัดเต็มหรือไม่ ไปเข้าเกมกันเลย

ROV

เป็นเกมยอดนิยมที่ต้องใช้การประมวลผลค่อนข้างสูงทีเดียว ตัวเกมค่อนข้างมีกราฟิกอลังการ ในเกม ROV ความสวยงามของเนื้อเรื่องนั้นไม่มีที่ติเลย ด้วยความที่เป็นหน้าจอแบบ AMOLED จึงยิ่ง support ให้การแสดงผลภาพกราฟิกนั้นสวยงามมากกว่าเดิม เรื่องความเสถียรก็ไม่พบปัญหาอะไร สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีหน่วงหรือกระจกแม้แต่น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับอินเทอร์เน็ตด้วย

Call of duty

สำหรับเกมนี้ต้องอาศัยความลื่นไหลอย่างมากเพื่อเล่นได้อย่างสนุกสนาน หน้าจอเป็นส่วนสำคัญที่จะเคลื่อนที่ตัวละครไปในทิศทางต่างๆ ซึ่ง Vivo V20 ก็ยังคงทำได้ดีอีกเช่นเคย ไม่พบจังหวะการหน่วงหรือกระจกเลยแม้แต่น้อยแม้ในจังหวะ sensitive ในช่วงของการซูม ก็ยังคงประมวลผลได้อย่างลื่นไหล โดยรวมเรื่องของการเล่นเกมถือว่าทำได้ดีทีเดียว Snapdragon 720G จัดว่าเอาอยู่

ในเรื่องของการดูหนังฟังเพลง สิ่งสำคัญก็คือความคมชัดของหน้าจอแล้วก็คุณภาพของเสียงจากลำโพง เมื่อลองเปิดเสียงจนเกือบสุดความดังของมันทำให้ฟังแล้วดูเสียงอาจจะมีแตกบ้างเล็กน้อย โทนเสียงจะออกทุ้มๆ แต่เมื่อเปิดฟังเพลงก็สามารถแยกเสียงร้องและเสียงดนตรีออกได้อย่างชัดเจน ไม่กลายเป็นเนื้อเดียวกันจนฟังแล้วไม่สบายหู

ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์การใช้งาน

ระบบปฏิบัติการของ Vivo V20 เป็น Funtouch OS 10.5 บนพื้นฐาน Android 11 ซึ่งในตัวของ Vivo V20 Pro ก็จะได้รับการอัปเดทเป็น Android 11 ในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน ไอคอนจะเป็นทรงกลมใช้งานง่าย ลากนิ้วลงมาจากด้านบนเพื่อเรียกการใช้งานตั้งค่าทางลัด ลากนิ้วลงมาจากด้านล่างเพื่อเรียกใช้งานเมนู ซึ่งจะแสดงแอปพลิเคชั่นทั้งหมดภายในเครื่อง เมื่อเปิดเครื่องมาแล้วอย่าลืมอัปเดทซอฟท์แวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันกันด้วยล่ะ

ฟีเจอร์การใช้งาน

รองรับการสแกนลายนิ้วมือและใบหน้า
โหมดประหยัดพลังงาน
โหมดถนอมสายตา
การบันทึกภาพหน้าจอทั้งแบบภาพนิ่งและวีดีโอ
Night Mode ใช้งานในที่มืด
โหมดอัลตราเกมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม
Vivo Share เพื่อส่งต่อข้อมูลด้วยความรวดเร็ว

กล้อง

เดินทางมาถึงจุดเด่นอย่างเรื่องกล้องของ Vivo V20 กันแล้ว เขาให้กล้องหลังมา 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล เป็นความละเอียดที่เท่ากับตัวรุ่นพี่อย่าง Vivo V20 Pro ซึ่งนอกจากความละเอียดที่ให้มาแล้ว ยังมีฟีเจอร์มากมายเพื่อช่วยให้การถ่ายภาพนั้นดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น สามารถถ่ายภาพแบบจบในกล้องไม่ต้องไปแต่งเพิ่มเติมให้มากมายแต่อย่างใด

นอกจากนี้ความสามารถของกล้องใน V20 ยังมีความเจ๋งตรงที่สามารถถ่ายภาพในตอนกลางคืนหรือในพื้นที่แสงน้อยได้อย่างดีเยี่ยม เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ ไม่เปิด Night Mode ก็ยังถ่ายสวย ส่วนคุณภาพไฟล์จะเป็นอย่างไร มีฟีเจอร์อะไรให้ได้ใช้งานกันบ้าง ดรีมนำมารีวิวกันแบบละเอียดให้ทุกคนได้เข้าถึงกล้องของ Vivo V20 เสมือนจับด้วยตัวเองกันไปเลย

64MP กล้องหลัก
8MP เลนส์ Ultra-Wide
2MP เลนส์ Depth หน้าชัดหลังเบลอ

กล้องหลัก

เลนส์ Wide

สำหรับเลนส์ Wide Angle 8 ล้านพิกเซล เพื่อการถ่ายภาพในมุมกว้าง ส่วนใหญ่มักใช้ถ่ายในการ Lanscape ถ่ายภาพวิว แต่มันก็สามารถนำมาถ่าย Portrait เพื่อให้ได้มุมมองภาพที่แตกต่างออกไปจากเดิม ลองมาดูการเปรียบเทียบระหว่างภาพถ่ายมุมปกติกับมุมมอง Wide กัน

Bokeh ถ่าย Portrait

นี่เป็นโหมดโปรดของสาวๆ เลยกับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ หรือจะเบลอหลังชัดก็ตามสไตล์ของแต่ละคน เลนส์นี้จะช่วยสร้างมิติของภาพให้น่าสนใจขึ้น ทำให้ตัวแบบดูโดดเด่นขึ้นมาจากฉากหลัง ซึ่งโบเก้ใน Vivo V20 คือจุดแข็งที่สุดในเรื่องกล้องเลยก็ว่าได้ ลองดูภาพเปรียบระหว่างเปิดกับปิดโหมดโบเก้กัน

นอกจากนี้เรายัสามารถเลือกวงโบเก้ด้านหลังให้เป็นรูปร่างอื่นๆ นอกจากวงกลมได้ด้วย มีให้เลือกทั้งดาว ใบไม้ หัวใจและอีกมากมายเลย

HDR

ถ่ายภาพย้อนแสงเราก็สามารถเปิด HDR เพื่อเก็บรายละเอียดของแสงให้สมดุลได้ หรือใครที่ชอบถ่ายภาพแนวย้อนแสงแล้วต้องการความมืดของภาพก็กดปิด HDR ได้เช่นเดียวกัน

หรือใครที่ต้องการควบคุมแสงด้วยตัวเอง ก็สามารถเลือก Light Effect หรือแสงภาพถ่ายบุคคล เพื่อใส่เอฟเฟกต์แสงได้ตามต้องการ

แล้วยังมีฟิลเตอร์ให้ได้ย้อมสีภาพก่อนการกดชัตเตอร์ ซึ่งมีให้เลือกเยอะแบบไม่หวาดไม่ไหวเลย ชอบแนวไหนก็ใส่ไปโลด!

อีกหนึ่งความพิเศษของ Vivo V20 คือมี AI ที่สามารถวิเคระห์องค์ประกอบต่างๆ ในภาพถ่ายแล้วปรับแก้ไขได้ เช่น ถ้ารูปที่ถ่ายออกมามีคนเดินอยู่รอบๆ AI ก็สามารถประมวลผลเพื่อตัดส่วนเกินที่อยู่ในภาพออกไปได้ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนท้องฟ้า เปลี่ยนฉากหลัง หรือแม้แต่ดึงตัวเองไปแปะอยู่ใน Background ก็ทำได้เหมือนกัน

วิธีการก็คือ เข้าไปที่แกลอรี่เลือกภาพที่ต้องการปรับแก้ไข แล้วกดไปที่ AI ตัดรูปภาพ ก็จะมีเครื่องมือมากมายให้เราได้เข้าไปใช้งาน เป็นฟีเจอร์ที่สนุกมากๆ เลยล่ะ

Night Mode

การถ่ายภาพตอนกลางคืน ถ่ายภาพในอาคารหรือในพื้นที่แสงน้อยจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป Night Mode ใน Vivo V20 สามารถดึงแสงและเก็บรายละเอียดของภาพได้คมชัด ลองมาดูภาพเปรียบเทียบกันระหว่างเปิดกับปิด Night Mode

เลนส์ Macro

เป็นเลนส์เพื่อการถ่ายภาพในระยะที่ใกล้มากๆ เพื่อสร้างมุมมองภาพที่แปลกใหม่ มักนิยมใช้ในการถ่ายลวดลายไม้ เกษรดอกไม้ ลายผ้าแล้วแต่ความสร้างสรรค์ของแต่ละคน มาดูคุณภาพเลนส์มาโครที่ดรีมถ่ายมาได้กัน

กล้องหน้า

เดินทางเข้าสู่เรื่องของกล้องหน้ากันแล้วเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ใน Vivo V20 Pro ให้ความละเอียดมาอยู่ที่ 44 ล้านพิกเซล ถึงแม้จะให้มาเลนส์เดียวแต่ก็สามารถถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังละลายได้เหมือนกันนะ แถมมีโหมดบิวตี้มาช่วยปรับผิวให้ดูเนียน สว่างตามต้องการได้เลย

Night Selfie เพื่อถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยก็มีนะ ลองมาดูภาพเปรียบเทียบกันได้เลย

แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน

แบตเตอรี่ใน Vivo V20 ให้มาอยู่ที่ 4,000 mAh ก็ถือว่าไม่น้อยเลยนะ แล้วยังมาพร้อมความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 33W จากการใช้งานจริงมันสามารถอยู่ได้นานทั้งวันเลยล่ะ การชาร์จที่ได้ประสิทธิภาพแบบเต็มรูปแบบมากที่สุด จะต้องใช้สายชาร์จและ adapter ของตัวมันเองเท่านั้น ถ้าใช้สายชาร์จของตัวอื่นอาจจะได้ความเร็วในการชาร์จไม่ถึง 33W เรื่องความเร็วในการชาร์จถือว่าทำได้ดีมากๆ เพียงแค่ 30 นาที ได้แบตเตอรี่มาเกิน 60% เลยทีเดียว ตอบโจทย์สำหรับคนที่ใช้งานมือถือตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่อีกต่อไป

สรุปการใช้งาน

Vivo V20 เป็นมือถือที่มีกล้องถ่ายรูปอัจฉริยะมากๆ และมีการพัฒนาของดีไซน์อย่างน่าทึ่ง ถ้าเปรียบเทียบกับ Vivo V20 Pro ก็มีหลายส่วนที่เหมือนกัน แต่มันก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันอยู่หลายจุดเลยทีเดียว เรื่องคุณภาพกล้องแทบจะไร้ที่ติกันเลย มีการพัฒนาในทุก series อย่างใส่ใจ ซึ่งสิ่งนี้เป็นจุดเด่นของ V Series ที่ผ่านมาในแต่ละรุ่น และ V20 ก็เป็นอีกรุ่นที่แนะนำสำหรับคนที่มีความชื่นชอบมือถือที่สามารถถ่ายรูปได้สวยเสมือนถ่ายจากกล้องมืออาชีพ และนอกจากกล้องแล้วในฟังก์ชันอื่นๆ V20 ก็ทำงานได้อย่างดี

โดยเปิดราคามาอยู่ที่ 11,999 บาทเท่านั้น มีให้เลือกถึง 2 สีด้วยกันคือ Sunset Melody และ Midnight Jazz สามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 22 ตุลาคม ที่ Vivo Brand Shop, ร้านตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, TrueMove H, Dtac และช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee, JD Central, Thisshop รับสิทธิ์ได้เครื่องก่อนใครพร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ มากมาย