เปิดตัว macOS Big Sur ระบบปฏิบัติการสำหรับ desktop รุ่นล่าสุด ดีไซน์สวยขึ้น ปรับแต่งง่าย เบราเซอร์เร็วที่สุดในโลก

Apple เปิดตัวระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ desktop เวอร์ชั่นใหม่ macOS Big Sur ที่หลักๆ จะเป็นการอัพเกรดหน้าจอ UI แบบใหม่ และการปรับปรุงแอปพลิเคชันหลักต่างๆ

macOS Big Sur มาดูกันที่ดีไซน์กันก่อนครับ ที่เห็นได้ชัดเจนก่อนเลย คือภาพพื้นหลัง หรือ Wallpaper ที่จะมาในรูปแบบเดียวกับบน iPhone หรือ iPad คือเป็นสีสันกราฟฟิก แทนที่จะเป็นรูปธรรมชาติเหมือนที่เคย เพื่อให้การออกแบบไปในทิศทางเดียวกันบนทุกอุปกรณ์ เช่นเดียวกับดีไซน์ของไอคอนแอป ซึ่งมีการออกแบบให้ดูมีมิติขึ้นเล็กน้อย เช่นเดียวกับเอฟเฟคการใช้งานก็ดูสวยงามขึ้น

ต่อมาเป็น Control Center ที่มีการเพิ่ม Quick Access สำหรับการควบคุมอุปกรณ์ได้รวดเร็ว และง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการแจ้งเตือน Notification Center ตอนนี้เราสามารถเพิ่ม Widget ที่ต้องการได้เอง พร้อมกับสามารถปรับขนาดได้ตามต้องการ คล้ายกับการใช้งานบน iPad

ไฮไลท์อีกอย่างของ Big Sur คือจะมาพร้อมกับเบราเซอร์ Safari เวอร์ชั่นใหม่ ที่ทาง Apple เคลมว่าเป็นเว็บเบราเซอร์บนคอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ คือสามารถใช้งานได้เร็วกว่า Google Chrome ถึง 50% และตอนนี้เราสามารถเปลี่ยนภาพ homepage ของ Safari ได้ตามใจชอบ รวมถึงสามารถติดตั้ง extension ได้ง่ายขึ้น พร้อมกับเลือกได้ว่าจะให้ทำงานกับหน้าเพจไหนแบบเฉพาะเจาะจงได้

ทางด้าน Messages จะใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยผู้ใช้สามารถใช้ฟังค์ชั่นค้นหา, Memoji, แชร์ข้อมูลต่างๆ ทั้งไฟล์ ภาพ หรือวีดีโอได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการนำทาง Map ที่มีการอัพเกรดให้ใช้งานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ มีฟังค์ชั่น Look Around สำหรับดูพื้นที่จริงบนแผนที่คล้าย Street View ของ Google และสามารถซิงค์ข้อมูลไปยังอุปกรณ์พกพาอย่าง iPhone หรือ iPad ได้ทันที

สุดท้าย Apple ประกาศว่ายบน Mac Platform จะเปลี่ยนมาใช้ชิปประมวลผลแบบ ARM ทั้งหมด และจะเริ่มปล่อย Mac เวอร์ชั่นใหม่นี้ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป และจะเปลี่ยนครบทั้งหมดในปี 2022 ส่วน Mac แบบ Intel ก็จะยังคงมีซับพอร์ตต่อไป และเร็วๆ นี้ Apple จะปล่อย dev kit สำหรับ Apple A12Z Bionic ที่มาพร้อม RAM 16GB และ ROM 512GB SSD พร้อมกับซอฟท์แวร์สำหรับนักพัฒนา เพื่อให้พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับ ARM Platform

macOS Big Sur มีกำหนดปล่อยให้ใช้งานกันในช่วงปลายปีนี้ครับ ซึ่งในตัว developer beta เริ่มปล่อยให้ใช้งานแล้ว โดย public beta จะเริ่มปล่อยในเดือนกรกฎาคม โดยอุปกรณ์ที่รองรับจะมีดังนี้

- MacBook (รุ่นปี 2015 เป็นต้นมา)
- MacBook Air (รุ่นปี 2013 เป็นต้นมา)
- MacBook Pro (รุ่นปลายปี 2013 เป็นต้นมา)
- Mac mini (รุ่นปี 2014 เป็นต้นมา)
- iMac (รุ่นปี 2014 เป็นต้นมา)
- iMac Pro
- Mac Pro (รุ่นปี 2013 เป็นต้นมา)

source: gsmarena