Hands On : realme 3 Pro แรกสัมผัสมือถือสุดคุ้ม ที่จะมาปลดปล่อยพลังความเร็ว
ในราคาสบายกระเป๋า !!

สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่ในงานเปิดตัวของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของ realme ส่งตรงจากประเทศอินเดียกันเลยทีเดียว และแน่นอนว่าบินมาร่วมงานเปิดตัวขนาดนี้ วันนี้ก็เลยมีบทความลองสัมผัสของ realme 3 Pro รุ่นใหม่ที่จัดเต็มแบบสุด ๆ รุ่นนี้มาฝากกันด้วย ว่าแต่เจ้ารุ่นนี้มีจุดเด่นอะไรบ้างนั้น มาอ่านบทความนี้กันเลยครับ :D

สเปคที่อัปเกรดจัดเต็มจนพอใจ !

เริ่มต้นกันด้วยสเปคก่อนเลย สำหรับ realme 3 Pro นั้นต้องบอกเลยว่าจัดสเปคมาให้ได้อย่างครบครัน เอาจนพอใจกันเลยล่ะ

สเปค realme 3 Pro

• หน้าจอ 6.3" FHD+(19.5:9)
• หน่วยประมวลผล Snapdragon 710 AIE Octa-core
• แรม 4GB/6GB
• ความจุ 64GB/128GB
• รองรับ micro-SD สูงสุด 256GB
• แบตเตอรี่ 4045mAh
• รองรับระบบชาร์จไว VOOC 3.0
• กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล
• กล้องหลังคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล f/1.7
• รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย ColorOS 6
• รองรับ 2 ซิมด้วยถาดซิมแบบ 3 slot
• ขนาดตัวเครื่อง 156.8 x 74.2 x 8.3 มม.
• น้ำหนัก 172 กรัม

เริ่มต้นด้วยการอัปเกรดหน่วยประมวลผลใหม่มาเป็น Snapdragon 710 AIE ตัวแรงที่ครอบคลุมทุกการใช้งานไม่ว่าจะใช้งานทั่วไปจนถึงการทำงานการเล่นเกมหนัก ๆอย่างในงานเปิดตัวก็มีโชว์เล็ก ๆ ว่าสามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลกว่าคู่แข่ง

หน่วยความจำแรมกับความจุภายในมีให้เลือก 3 โมเดลด้วยกันคือ 4GB + 64GB, 6GB + 64GB และ 6GB + 128GB ทั้ง 3 รุ่นนี้สามารถเพิ่ม micro-SD ได้สูงสุดถึง 256GB อีกหากที่ให้มายังไม่พอเนอะ

ดีไซน์โฉมใหม่ ก็สวยบาดใจ

ในส่วนของดีไซน์ของ realme 3Pro ก็ปรับโฉมให้สวยขึ้นกว่าตอน realme 3 ธรรมดาอีกด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น สุดขอบมากขึ้น โดยรุ่นนี้จะได้หน้าจอมาที่ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วนหน้าจอแบบ 19.5:9 และแสดงผลได้สูงถึง 90.80% กับพื้นที่หน้าจอด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ FHD+ แล้ว และแน่นอนว่าติ่งบนหน้าจอยังมีเล็ก ๆ แบบ Dewdrop Screen อยู่นาจา

การแสดงผลของหน้าจอ realme 3 Pro ทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ แสดงผลสีสันได้อย่างดีเลย มุมมองของหน้าจอก็กว้างพอควรเลย และพวก UI บนหน้าจอก็แสดงผลได้อย่างสวยงามมองแล้วดูเนียนตาน่าใช้งานมาก ๆ

เหนือหน้าจอมีกล้องหน้าวางอยู่บนติ่งบนหน้าจอแบบนี้ ไม่ต่างจากรุ่นเดิมมากนักครับ ส่วนขอบหน้าจอด้านล่างจะเห็นว่าบนรุ่น Pro นั้นเหลือพื้นที่น้อยลงและทำให้สัดส่วนของตัวเครื่องดูสวยมากขึ้นไปอีกด้วย

กรอบตัวเครื่องรอบนี้ให้ผิวสัมผัสแบบด้าน ๆ มา พร้อมกับมีการตัดขอบแบบ Diamond Cut เข้าไปด้วย ส่วนตัวชอบผิวสัมผัสแบบนี้มากเลย เพราะให้ความรู้สึกที่ไม่ลื่นมือจนเกินไป แถมยังดูจับได้อย่างถนัดมืออีกด้วยนะ

ตำแหน่งการวางปุ่มต่าง ๆ ก็อยู่ในมุมที่มาตรฐานของ realme คือมีปุ่ม Power อยู่ที่ด้านขวามือของตัวเครื่อง ด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง วางไว้ให้เอื้อมนิ้วไปกดได้อย่างสะดวกไม่ฝืนการใช้งานครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้จะอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องทั้งหมด เริ่มจากซ้ายไปขวาคือ ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ micro-USB, ไมโครโฟนสำหรับสนทนาและลำโพงหลักของตัวเครื่องที่ย้ายมาอยู่ที่มุมขวาแล้ว ช่วยให้การใช้งานเวลาเล่นเกมหรือดูหนังนั้นดียิ่งขึ้น

พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังของตัวเครื่องเห็นดีไซน์สีสันใหม่อีกครั้ง ใช้เทคนิคการไล่เฉดสีสวย ๆ เช่นเคย โดยรุ่นนี้จะมีให้เลือก 3 สีคือ Lightning Purple, Nitro Blue และ Carbon Gray ซึ่งแต่ละสีก็จะไล่เฉดสีได้มีมิติสวยงามแตกต่างกันไปแต่ทุกสีจะมีลวดลายเป็นตัว S แสดงขึ้นมาเมื่อมีการสะท้อนกับแสง

สี Lightning Purple

สี Nitro Blue

สี Carbon Gray

และด้วยสโลแกนของรุ่นนี้คือ Speed Awakens ตรงฝาหลังก็ยังมีลวดลายเส้น Speed อยู่ด้วย ตรงนี้สีเทา Carbon Gray เห็นเด่นชัดที่สุดเลย ถ่ายมาให้ชมกันใกล้ ๆ เนาะ

ตำแหน่งการวางกล้องหลังนั้นเรียงกันลงมาเป็นแนวตั้งแบบนี้ใช้กล้องคู่เช่นเคย ซึ่งตรงกรอบเลนส์ของกล้องหลักนั้นจะมี realme Ring ที่เป็นวงแหวนสีเหลืองสวยสะดุดตาตั้งแต่ที่เห็นเลยล่ะ พร้อมกันนี้ตรงกลางยังมีตัวสแกนลายนิ้วมือที่วางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมอีกด้วย

ในส่วนของดีไซน์โดยรวมจะเหมือนปรับเปลี่ยนจากตอน realme 3 ปกติให้ดูสวยงามและพรีเมี่ยมมากขึ้น ทั้งสีสันที่เลือกใช้และหน้าจอที่คมชัดมากขึ้นกว่าเดิมครับ

ระบบปฏิบัติการล่าสุด ฟีเจอร์เพียบจ้า

ระบบปฏิบัติการของ realme 3 Pro นั้นได้ Android 9.0 Pie ที่ครอบมาด้วย ColorOS 6 อีกที ทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลดีมาก ๆ รวมถึงตัว ColorOS 6 นั้นก็มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาด้วยเช่นกัน หน้าตา UI มีการปรับให้สวยงามและเรียบน่าใช้มากขึ้น

มีระบบ Hyperboost 2.0 ที่ช่วยให้การทำงานต่าง ๆ เร็วขึ้น ไม่ใช่แค่การเปิดแอป แต่ในเรื่องการสัมผัสต่าง ๆ ก็จะตอบสนองได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยนะ

มี App Drawer หรือหน้ารวมแอปมาให้ตั้งแต่ค่าเริ่มต้นเลย ไม่ต้องไปกระจุกอยู่ในหน้าแรกทั้งหมดแล้ว อันไหนที่ใช้ไม่บ่อยก็เอาออกไปจากหน้าหลักนี้ได้เนอะ

กล้องมาโหดอีกแล้ว

ในส่วนของกล้อง realme 3 รุ่นก่อนทำได้ดีมากกกกก ! รอบนี้รุ่น Pro ก็อัปเกรดขึ้นมาอีกเยอะ เริ่มต้นด้วยกล้องหลังที่ได้กล้องคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล ตัวกล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX519 เป็น Dual Pixel ค่ารูรับแสง f/1.7 โฟกัสได้ไวรวมถึงถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีทีเดียวล่ะ ส่วนกล้อง 5 ล้านพิกเซลอีกตัวก็จะมาช่วยในเรื่องของการวัดระยะในการถ่าย Portrait mode นั่นเอง

โหมดการใช้งานรอบนี้ชูฟีเจอร์เด่นของ ColorOS 6 มาเลย ทั้ง Chroma Boost ที่ช่วยเพิ่มความอิ่มของสีและปรับแสงให้สวยงามแม้ย้อนแสงหรือแสงน้อยได้อย่างดี, Portrait mode ที่เสริมความเนียนสวยของใบหน้าและละลายฉากหลังได้เป็นอย่างดี, Nightscape หรือการถ่ายภาพกลางคืนก็แจ่มขึ้นรวมไปถึง Ultra-HD ที่เราสามารถถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซลได้เลยด้วย

รวมถึงโหมดวิดีโอมีการเพิ่มฟีเจอร์อย่าง Super Slow Motion 960fps ก็มีใส่มาให้นะจ๊ะ ไม่ใช่เล่น ๆ นา โดยสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด HD 720p ส่วน Slow motion แบบปกติ 120fps ก็ได้ที่ Full HD 1080p ไปเลย

กล้องหน้าเพิ่มความละเอียดมาเป็น 25 ล้านพิกเซลแล้ว สะใจสายเซลฟี่กันเลยล่ะ มาพร้อมขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นเป็น 1.8 ไมครอน และยังมีซอฟต์แวร์ในส่วนของ HDR รวมถึง AI Beautification เข้ามาเสริมอีกด้วย

มีระบบชาร์จไว VOOC 3.0 แล้วนะเหวย

เรื่องสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่องของระบบชาร์จเพราะ realme นั้นยังไม่มีรุ่นที่มีระบบชาร์จไวออกมาเลย รอบนี้จัดเต็มให้ด้วยระบบชาร์จไว VOOC 3.0 ที่เราคงคุ้นหูอยู่บ้างแล้ว (ของ OPPO)ซึ่งระบบตัวนี้ก็สามารถชาร์จได้ที่ความเร็ว 20W จัดเต็มกันไปเลย ถึงแม้แบตฯของ realme 3 Pro จะให้มาเยอะถึง 4045mAh แต่ชาร์จด้วย VOOC 3.0 นี้ก็ไวมาก ใช้เวลาราว ๆ 80 นาทีก็เต็มแล้วล่ะ

สรุปหลังลองจับ

ฟีลการจับถือทำออกมาได้ดีทีเดียว รูปลักษณ์ที่ดูสวยงามใช้ได้ พรีเมี่ยมขึ้นกว่ารุ่นก่อนพอควร ในส่วนของสเปคต่าง ๆ ก็ต้องบอกว่ารอบนี้ realme เอาจริง จัดมาให้แบบน่าพอใจมาก ๆ ทั้งหน่วยประมวลผลตัวแรง Snapdragon 710 ความจุเยอะสูงสุด 6GB + 128GB พอต่อการใช้งานแน่ ๆ กล้องที่โดดเด่นขึ้นมาอีกเยอะ อยากลองแบบจริงจังเลยว่าจะดึงประสิทธิภาพออกมาได้แค่ไหน รวมถึงระบบชาร์จไวที่ใส่มาให้สักทีบนรุ่นนี้ VOOC 3.0 แบบนี้ เรียกว่าเป็นรุ่นสุดคุ้มที่เตรียมมาชิงพื้นที่ในตลาดบ้านเราเร็ว ๆ นี้แน่นอนครับ

ราคา !

สำหรับราคาค่าตัวที่เปิดตัวในประเทศอินเดียนี้ก็ตั้งมาได้น่าสนใจทีเดียว (ราคาจะแตกต่างจากของประเทศไทยเล็กน้อย) แบ่งออกเป็น 2 โมเดลความจุดังนี้เลยครับ

realme 3 Pro รุ่น 4GB + 64GB = 13999 รูปี (ประมาณ 6,400 บาท)

realme 3 Pro รุ่น 6GB + 128GB = 16999 รูปี (ประมาณ 7,800 บาท)

ในส่วนของประเทศไทยก็เตรียมจะวางจำหน่าย realme 3 Pro ในช่วงเดือนหน้านี้เช่นกัน แต่ราคาคงต้องรอติดตามกันต่อไปเนอะ ยังไงวันนี้ เฮียแม็พ. TechXcite คงต้องลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้าละกันครับ :D

บทความโดย : เฮียแม็พ. TechXcite