เข้าสุ่เรื่องการเล่นเกมกันเลยดีกว่า ว่าถ้าเล่นเกมกันจริง ๆ จะเป็นยังไงกับชิปเซ็ต Dimensity 1000+ บน realme X7 Pro 5G ตัวนี้ ซึ่งเกมที่เราเลือกมาทดสอบก็เป็นเกม Call of Duty Mobile กับ Asphalt 9 นั่นเองครับ
เล่น Call of Duty Mobile บน realme X7 Pro 5G
เริ่มที่เกม Call of Duty เราสามารถปรับระดับกราฟิกได้สูงสุดที่ Very High และเฟรมเรตสูงสุดที่ High เท่านั้นครับ แต่เอฟเฟกต์เสริมอย่าง Depth of Field, Bloom, Real-Time Shadows, Ragdoll, Water Reflection ได้หมดเลย
โหมดการถ่ายภาพก็ให้มาครบครับทั้งโหมดมาตรฐานอย่าง Auto ที่มี AI Scene Recognition คอยแยกแยะซีนให้ภาพสวยขึ้นรวมถึง Auto HDR ที่ปรับแสงให้สวยขึ้นแม้ภาพจะย้อนแสง Portrait, Nightscape หรือโหมดพิเศษที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Ultra macro, Expert ก็มีด้วยให้เลื่อนไปที่ more ได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Auto ของ realme X7 Pro 5G จะเห็นว่าภาพที่ได้นั้นสวยและดูดีใช้ได้เลย ตัว Auto HDR ช่วยเก็บแสงและ Dynamic Range ได้เป็นอย่างดี โทนสีจะมีความนวลหน่อย ๆ ใช้งานได้ดีทั้งเลนส์หลักและ Ultra Wide Angle เลยด้วย ตัว AI Scene เก่งพอที่เราไม่ต้องมาปรับภาพเพิ่มเติม ถ่ายแล้วได้ผลลัพธ์สวยจากหลังกล้องเลยครับ
อีกหนึ่งฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ของโหมดวิดีโอจาก realme X7 Pro 5G ก็คือโหมด AI Color Portrait Video ที่ช่วยให้เราถ่ายวิดีโอได้โดดเด่นกว่าที่เคย เพราะตัว AI จะตรวจจับแบบและเปลี่ยนสีฉากหลังทั้งหมดเป็นสีขาว-ดำทั้งหมด เด่นสุด ๆ เลยล่ะทีนี้ หรือจะเลือกเด่นเป็นสี ๆ จาก Monochrome Video ก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่างวิดีโอ AI Color Portrait จะเห็นว่าการดูดสีและการตัดฉากหลังของฟิลเตอร์ต่าง ๆ นั้นเก่งและเนียนมากจริง ๆ แต่ก็มีจุดที่น่าเสียดายอยู่บ้างคือความละเอียดสูงสุดของ AI Color Portrait นั้นจะได้แค่ 720p เท่านั้น แต่ถ้าเป็นฟิลเตอร์อื่น ๆ รวมถึง Monochrome Video จะได้สูงสุดที่ 1080p ครับ