กรอบตัวเครื่องของ Galaxy S20 FE จะหรูหราด้วยวัสดุโลหะขัดเงา มีความสวยงามและผิวสัมผัสที่แตกต่างจากพวก Galaxy A Series อยู่พอสมควรเลย ความบางของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 8.4 มม. บางกำลังดีและให้ความรู้สึกที่แน่นหนาที่มือใช้ได้เลย
เริ่มต้นกันที่เกมฮิตที่เราเล่นเป็นประจำอย่าง Call of Duty Mobile กันก่อนเลย อย่างที่บอกไปว่าสเปคระดับนี้ตัวเกมรองรับอย่างเต็มที่แน่นอน สำหรับเกมนี้เราสามารถปรับระดับกราฟิกได้ที่สูงสุด Very High และเฟรมเรต Max รวมถึงเปิดเอฟเฟกต์ Depth of Field, Bloom, Real-Time Shadows, Ragdoll, Anti-Aliasing ได้ครบหมด เรียกว่าสูงสุดเท่าที่จะปรับได้บนสมาร์ทโฟนตอนนี้แล้วครับ
ในส่วนของ UI การใช้งานกล้องก็ทำงานได้ง่าย มีไอคอนให้เลือกปรับระยะของเลนส์ชัดเจน กดสลับได้ทันทีมี AI Scene Optimizer มาช่วยเลือกซีนและปรับแต่งภาพให้เข้ากับภาพนั้น ๆ
โหมดการใช้งานก็มีมาให้ครบทั้ง Live Focus, Night Mode, Super Slowmotion, Pro Video และ Single Take ใหม่แบบเดียวกับที่มีบน S20 หรือ Note20 ก็มีมาให้ใช้งานแล้วด้วยครับ
ตัว Live Focus หรือโหมดหน้าชัดหลังเบลอก็มีให้เลือกใช้ถ่ายคนได้แบบสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถใช้เลนส์ Tele 3x เพื่อถ่ายโหมดนี้ได้ ตัวกล้องจะล็อคไว้ที่เลนส์หลักระยะ 1x เท่านั้นในโหมด Live Focus นี้ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Galaxy S20 FE 5G อย่างที่บอกไปว่าเลนส์ทั้ง 3 ตัวของรุ่นนี้นั้นให้มาครบมาก ใช้งานได้ครบทั้งซูม มุมกว้างรวมถึงกล้องหลักคุณภาพเยี่ยมอีก ทำให้เราได้ภาพในทุกแบบ ถ่ายวิวก็สวย ซูมเข้าไปอีกนิดก็ดี แถมโหมดการใช้งานที่ให้มาก็ถือว่าครบเลย Live Focus ถ่ายได้สวยสกินโทนเคลียร์และเป็นธรรมชาติ หรือจะเป็น Bright Night mode กลางคืนก็สวยมากแบบไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้อง