By เฮียแม็พ | 25 ต.ค. 2563 13:06:18 (อัพเดต 27 ต.ค. 2563 14:32:47) | 11687 Views
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความแกะกล่องมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ OPPO A93 สมาร์ทโฟนน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ นี่เลย รุ่นนี้มาพร้อมสโลแกนว่า “สนุกทุกโมเมนต์” ครบทุกฟังค์ชั่น สนุกทุกการดีไซน์, สนุกทุกโมเมนต์การถ่ายภาพ และสนุกทุกความบันเทิง ตอบโจทย์เพื่อน ๆ ที่ต้องการความครบครันในราคาเพียง 8,999 บาทเท่านั้น เริ่มสนใจขึ้นแล้วล่ะสิ วันนี้เราแกะกล่องพรีวิว OPPO A93 ให้ชมกันก่อน ติดตามครับ :D
มาเริ่มกันที่ตัวกล่องกันก่อนเลย OPPO A93 มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาว Metallic White และ สีดำ Matte Black ซึ่งที่หน้ากล่องจะโชว์เป็นสีขาว Metallic White ทั้งหมดนะครับถึงแม้ตัวเครื่องข้างในจะเป็นสีดำก็ตาม ซึ่งสีสันจริง ๆ ของเครื่องภายในจะมีระบุไว้ที่หลังกล่องอีกทีครับ
ที่มุมขวาบนของตัวกล่องจะมีระบุความจุไว้ชัดเจนตามสไตล์ OPPO รุ่นนี้ OPPO A93 ได้ความจุมาที่ 8GB + 128GB กันเลยทีเดียว
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังกล่องเราจะเห็นฟีเจอร์เด่นที่ระบุไว้รุ่นนี้มีอยู่ 4 อย่างหลัก ๆ คือ
และอย่างที่บอกไปสีสันของเครื่องภายในก็จะมีระบุไว้ที่ด้านหลังนี้ด้วย ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวจะเป็นสีดำ Matte Black ครับผม
กล่องของ OPPO A93 ก็จะเป็นแบบ 2 ชั้นเมื่อถอดชั้นนอกที่เป็นตัวครอบออกมาเราจะเจอกล่องขาวเรียบ ๆ พร้อมโลโก้ OPPO วางอยู่เด่น ๆ ตรงกลางครับ
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่อง OPPO A93 นอนรอให้เราได้สัมผัสกันเลย ซึ่งตัวเครืองจะอยู่ในซองอย่างดีที่หน้าซองจะมีระบุคุณสมบัติเด่นแบบเดียวกับที่อยู่ด้านหลังกล่องด้วยครับ
หยิบเครื่องออกมาก่อนเดี๋ยวมาตั้งค่ากันอีกที โอ๊ะ...ตัวเครื่องเบามาก เบาแบบรู้สึกได้เลยจริง ๆ นี่คือสัมผัสแรกที่เราหยิบออกมาจากกล่องเลยนะ บอกไว้แค่นี้ก่อนเดี๋ยวมาดูตัวเลขกันอีกที
ลึกลงไปภายในกล่องจะมีกล่องเล็กที่รองตัวเครื่องอยู่อีกที ภายในจะมีอุปกรณ์เสริม 3 อย่างประกอบด้วย
ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบในกล่องเล็ก ๆ นี้ครับ
ต่อมาเราจะเจอกับอะแดปเตอรชาร์จไว 18W Fast Charge ของ OPPO A93 ที่มีขนาดมาตรฐานพอร์ตแบบ USB Type-A ครับ
และแน่นอนสายชาร์จก็เป็นแบบ USB Type-C to Type-A แบบมาตรฐานด้วยครับ
อ๊ะ ๆ ...และอย่างสุดท้ายก็คือหูฟังครับ รอบนี้ OPPO ยังใจดีแถมหูฟังแจ็ค 3.5 มม. มาให้ในกล่องอีกเหมือนเคย
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องของ OPPO A93 ก็ให้มาครบดีครับ รวมแล้วอุปกรณ์ทั้งหมดมี 7 อย่างดังนี้
มายลโฉม OPPO A93 กันเลยดีกว่า อย่างที่ได้บอกไปตอนแกะกล่องว่าตัวเครื่อง OPPO A93 นั้นเบามาก ๆ เบาแบบรู้สึกได้จริง ๆ เพราะรุ่นนี้มาพร้อมความเบาเพียง 164 กรัมเท่านั้น แถมยังบางเฉียบเพียงแค่ 7.48มม. เท่านั้นเอง เรียกว่าบาง และเบาที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่นเลยก็ว่าได้ครับ
มาดูความบางเฉียบที่ด้านข้างกันอีกสักหน่อย อย่างที่บอกว่าความบางของรุ่นนี้มาเพียง 7.48มม. เท่านั้น ขนาดกะทัดรัดสุด ๆ เหมือนยกเอาความบางเบาทีเด็ดของ OPPO Reno4 Series มาไว้เลย เลยทำให้ OPOO A93 รุ่นนี้เป็น OPPO A Series ที่บางและเบาที่สุดด้วยนะ
มาดูที่หน้าจอกันบ้าง OPPO A93 มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43” ความละเอียดระดับ FHD+ เรียกว่าแสดงผลได้สวยงามมาก ๆ มีการใช้พื้นที่หน้าจอไปมากถึง 90.7% อีกต่างหาก ยอดเยี่ยมครับ
ดีไซน์หน้าจอของรุ่นนี้จะใช้เป็น Mini Dual Punch-Hole Display หรือรูกล้องหน้าแบบคู่ที่มุมซ้ายบน แต่ด้วยความที่รูกล้องมีขนาดที่เล็กมาก เล็กเพียง 3.7 มม. เท่านั้น แต่ได้กล้องหน้าคู่ 16MP + 2MP มาเลยนะ OPPO เลยใส่คำว่า “Mini” เข้ามานำหน้าด้วย
ส่วนบนหน้าจอด้วยความที่เป็นจอแบบ Super AMOLED ก็สามารถใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามาได้ด้วย บน OPPO A93 เลยมีระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ In-Display Fingerprint Unlock 3.0 ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วมาก ๆ แตะปุ๊บก็ติดปั๊บเลย
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังกันบ้าง OPPO A93 มาพร้อมฝาหลังหรูหรามาก ๆ มีผิวสัมผัสแบบมันวาวผสมกับผิวด้านได้อย่างลงตัว แบ่งดีไซน์เป็นแบบ Two-Tone สำหรับสี Matte Black จะเห็นว่ามีความเข้มและอ่อนของสีด้านหลังได้กำลังพอดีเลย
และอย่างที่เห็นว่าตัวฝาหลังมีความมันวาวอยู่เวลาสะท้อนกับแสงแต่เมื่อสัมผัสจริง ๆ จะให้ความรู้สึกเป็นผิวด้านแบบชัดเจนมาก ซึ่งดูดีสุด ๆ ตัวเครื่องไม่ลื่นมือจนเกินไป คราบรอยนิ้วมือก็ไม่เก็บเท่าแบบฝาหลังมันทั่วไปด้วย คือดูพรีเมี่ยมและพิถีพิถันในการออกแบบอย่างมากเลยล่ะ
กล้องหลังของ OPPO A93 ให้มาด้วยกัน 4 ตัวเรียงอยู่ในกรอบแบบจัตุรัสเลย ดูมีระเบียบดีมาก พร้อมไฟแฟลชที่แยกออกมานอกกรอบเป็นแถบยาว ๆ กำลังดีครับ
OPPO เลือกว่าตำแหน่งปุ่มกดต่าง ๆ ไว้ในมุมที่คุ้นเคย มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ที่มุมซ้ายแยกเป็น 2 ปุ่มให้เลือกกดได้ง่ายไม่สับสน
ส่วนปุ่ม Power ก็จะอยู่ที่ด้านขวา วางตำแหน่งไม่สูงหรือต่ำจนกดได้ยาก ตัวปุ่มกดเป็นแบบเรียบ ๆ ไม่มีการใส่แถบสีเขียวเข้ามาเหมือนรุ่นอื่น ๆ
กรอบตัวเครื่องจะเป็น Polycarbornate ผิวมันวาวให้ความรู้สึกที่หรูหราดีเมื่ออยู่อยู่กับฝาหลังที่เป็นแบบด้าน ที่ด้านบนจะมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนด้วย 1 ตัว
ส่วนด้านล่างก็มีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนสนทนา, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง และช่องหูฟัง 3.5 มม. รุ่นนี้ยังมีอยู่นะจ๊ะ
ถาดใส่ซิมของ OPPO A93 จะเป็นแบบ Triple Slot คือสามารถใส่ได้ทั้ง 2 ซิมคู่กับ micro-SD ด้วยครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ OPPO A93 ทำออกมาได้ดีมาก ตัวเครื่องดูหรูหราด้วยเทคโนโลยีฝาหลังแบบใหม่ Shiny Matte พร้อมความบาง เบาที่สัมผัสได้จริงไม่ใช่แค่ตัวเลข ให้ความรู้สึกถึงความแตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นทั่ว ๆ ไปที่มักหนาและไม่น่าสัมผัสเท่านี้ครับ
ในส่วนของซอฟต์แวร์ OPPO A93 ใช้ ColorOS 7.2 ที่ครอบทับอยู่บน Android 10 มีความลื่นไหลและความสามารถมากมาย ทั้ง Dark mode, Smart SideBar, OPPO Relax, Icon Pull Down Gesture หรือ Gravity Wallpaper ด้วยครับ
รวมถึงฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่าง Air Gesture ที่ให้เราผายมือโบกมือเพื่อรับสายโทรสัพท์ได้ด้วย เผื่อมือไม่สะดวกมาแตะที่หน้าจอก็ใช้สั่งงานด้วยท่าทางได้ครับ
ในเรื่องกล้อง OPPO A93 ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน รุ่นนี้จะมาช่วยให้เราสนุกทุกโมเมนต์ในการถ่ายภาพด้วย 6 AI Portrait Cameras หรือกล้อง AI Portrait มากถึง 6 ตัว (กล้องหน้า 2 + กล้องหลัง 4) โดยมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
มีฟีเจอร์เรื่องการถ่ายภาพ Portrait เจ๋ง ๆ อย่าง AI Color Portrait รวมถึง Night Flare Portrait จากรุ่นพี่อย่าง OPPO Reno4 ติดมาด้วย ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างมีลูกเล่นมากขึ้นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
หรือจะเป็นฟีเจอร์กล้องอื่น ๆ ทั้ง AI Super Clear Portrait, AI Beauty 2.0, Ultra Clear 108MP Image, Ultra Steady Video ก็มีให้เลือกใช้ครบ
สำหรับ OPPO A93 ก็เปิดราคาอย่างเป็นทางการแล้วที่ 8,999 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Matte Black และสีขาว Metallic White เริ่มเปิดจองตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. - 3 พ.ย.63
รับของแถมเป็น OPPO Pillow Blanket และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 3,899 บาท
และพิเศษเมื่อซื้อกับโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย AIS, dtac, True ราคาพิเศษเริ่มต้น 4,489 บาทเท่านั้นครับ !
OPPO A93 ถือว่าเป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจของ A Series จาก OPPO ทั้งในเรื่องดีไซน์ที่สวยลงตัว งานประกอบดีและมีจุดเด่นในเรื่องความบาง เบาที่สุดในสมาร์ทโฟนกลุ่มราคานี้ สเปคที่ให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน กล้องที่น่าสนใจโดดเด่นไม่แพ้รุ่นพี่ หน้าจอที่สวยคมชัด Super AMOLED FHD+ น่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คนไม่น้อย
อันนี้เป็นความรู้สึกคร่าว ๆ หลังแกะกล่องก่อนเนาะ สำหรับการใช้งานจริง จะมีจุดที่เราชอบหรือไม่ชอบตรงไหนบ้าง เดี๋ยวขอไปลองใช้ก่อน แล้วจะมีอัปเดตให้อีกทีเนาะ สำหรับวันนี้ เฮียแม็พ. TechXcite คงต้องลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่บทความหน้า :D
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite
เฮียแม็พ | เมื่อวาน 18:44 | 621 hits
เฮียแม็พ | 29 ธ.ค 2563 19:12 | 11002 hits
เฮียแม็พ | 22 ธ.ค 2563 13:54 | 8439 hits
เฮียแม็พ | 17 ธ.ค 2563 22:00 | 13519 hits