Camera : เปิดตัวแล้ว กล้อง Sony A9 II สุดยอดเรือธงที่มาพร้อมการอัพเกรดจากรุ่นเดิมเพื่อการทำงานที่เร็วขึ้น

Sony ประกาศเปิดตัวกล้อง Full Frame Mirrorless รุ่นใหม่ล่าสุดกับ Sony A9 II โดยกล้องรุ่นนี้เป็นกล้องระดับเรือธงที่เน้นการทำงานที่รวดเร็ว มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่คล้ายคลึงกับ Sony A7R IV ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ สำหรับ Sony A9 II เป็นกล้องที่เหมาะกับช่างภาพกีฬาหรือช่างภาพข่าว ด้วยระบบการถ่ายภาพต่อเนื่อง 20 ภาพต่อวินาที และระบบคำนวณการสัดแสงแบบ 60 เฟรมต่อวินาที ตัวกล้องรองรับพอร์ตเชื่อมต่อ 1000BASE-T Ethernet เพื่อการส่งภาพที่รวดเร็วทั้ง SSL หรือ TLS encryption (FTPS) และยังลดอาการ lag เทื่อเชื่อมต่อการทำงานด้วย Remote Camera Tool ผ่านคอมพิวเตอร์ รวมถึงยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wireless LAN 5 GHz (IEEE 802.11ac)

ตัวกล้อง Sony A9 II มีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Voice Memo สำหรับการบันทึกเสียงพูดเพื่อบันทึกความจำในรูปแบบเสียงลงในไฟล์ภาพถ่ายได้ ช่วยให้การนำภาพมาใช้งานได้สะดวกขึ้น ส่วนตัวกล้องได้รับการดีไซน์ใหม่ให้มีกริปใหญ่ขึ้น ในขณะที่เซ็นเซอร์ของตัวกล้อง Sony A9 II มีความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล มี Buffer รองรับการถ่ายภาพต่อเนื่อง 361 ภาพใน JPEG หรือ 239 ภาพใน compressed RAW พร้อมวิวไฟน์เดอร์แบบ No Black-out และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยม่านชัตเตอร์แบบกลไกเร็วขึ้นเป็น 10 ภาพต่อวินาที

ทางด้านระบบโฟกัสนั้น มีจุดโฟกัส 693 จุดแบบ Phase Detection ครอบคลุมพื้นที่ 93% พร้อมระบบ Real-time Eye AF ทั้งในส่วนของดวงตามนุษย์และดวงตาสัตว์ รองรับการถ่ายวีดีโอด้วยระบบโฟกัส Real-Time Eye AF

สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาใน Sony A9 II

• ปรับปรุงชิพประมวลผล BIONZ X เพื่อประมวลผได้รวดเร็วขึ้นทั้งเรื่องระบบโฟกัสและการสัดแสง รวมถึงการจัดการไฟล์ภาพในตัวกล้อง
• ปรับปรุงเรื่องซีลป้องกันฝุ่นและละออง้ำให้ดีขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะในส่วนของฝาผิดช่องใส่แบตเตอรี่และช่องใส่การ์ด 
• ปรับปรุงระบบอัลกอริธึมในการประมวลผล เพื่อลด Noise และปรับปรุงคุณภาพไฟล์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
• ระบบกันสั่น 5 แกน ช่วยลดการสั่นไหวได้ถึง 5.5 สตอป
• ปรับปรุงกริปให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและรองรับกับกริปถ่ายภาพแนวตั้งรุ่นใหม่ Sony VG-C4EM
• พัฒนาเรื่องความรู้สึกในการสัมผัสปุ่มต่างๆ เพิ่มขนาดปุ่ม ‘AF-ON’ และปรับปรุงจอยสติ๊กให้ใช้งานได้ง่าย รวมถึงตำแหน่งปุ่มต่างๆที่กดได้ถนัดขึ้น
• ดีไซน์กลไกม่านชัตเตอร์ใหม่ที่ลดการสั่นไหวได้ดีขึ้นและทนทานมากขึ้น โดยผ่านการทดสอบที่ 500,000 ครั้ง 
• ใช้ USB Type-C 3.2 Gen 1 
• รองรับช่องใส่การ์ด UHS-II SD ทั้งสองช่อง
• รองรับระบบ Multi Interface Shoe™ (MI Shoe) เมื่อใช้งานกับไมโคโฟน ECM-B1M หรือ XLR-K3M XLR Adaptor Kit ผ่านทางฮอทชูแฟลช เพื่อเสียงที่ดีขึ้น
• ราคาเปิดตัว  $4,500 หรือประมาณ 139,990 บาท

ที่มา : dpreview